อาหารร้าย

สุภาษิตจีนบอกว่ายิ่งปลอดภัยยิ่งอันตราย หากเข้าใจว่าปลอดภัยเมื่อไหร่ก็อาจเกิดอันตรายได้เมื่อนั้น สุภาษิตนี้ใช้ได้ดีกับอาหาร เนื่องจากมีความเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยว่าอะไรก็ตามที่เรียกว่าอาหารย่อมเป็นของดี โดยเข้าใจเอาว่าอาหารคือสิ่งที่กินกันมานาน ให้ความปลอดภัยต่อสุขภาพ จัดเป็นสิ่งจำเป็นที่ค้ำจุนชีวิต ทำให้ชีวิตเป็นปกติ มีเมแทบอลิซึมที่ปกติได้หรือเจริญเติบโตได้หรือแพร่พันธุ์ได้ก็แล้วแต่ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายอยู่ในสถานะไหน ดูจากนิยามแล้วอาหารต้องนับว่าดี ตรงนี้เองที่ควรระวังความที่เรียนรู้เรื่องเมแทบอลิซึมของร่างกายกันมามาก ถึงวันนี้รู้แล้วว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นแม้ว่าดีทว่าต้องบริโภคกันอย่างสมดุล หากขาดสมดุล อย่างเช่นได้รับมากเกินไป หรือน้อยเกินไป หรือสัดส่วนของสารอาหารเป็นปัญหา หรือสารอาหารในกลุ่มไม่สมดุล สร้างความเสี่ยงต่อสุขภาพได้เมื่อนั้น ยิ่งอยู่ในยุคของเทคโนโลยี จำเป็นต้องระวังอาหารที่มีการปนเปื้อน ทั้งสารเคมีทั้งเชื้อโรคที่สร้างปัญหาต่อสุขภาพสารพัดตัวอย่างอาหารสร้างความเสี่ยงหรืออาจจะเรียกว่า “อาหารร้าย” ก็ได้ กลุ่มแรกคืออาหารปนเปื้อน ทั้งปนเปื้อนสารเคมี เป็นต้นว่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช ยากำจัดวัชพืช มีการใช้สารเคมีในการเพาะปลูกแล้วปนเปื้อนเข้ามาในอาหาร หรือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ บางคนเรียกว่าอาหารเคมีเพื่อให้ตรงข้ามกับอาหารอินทรีย์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ใช้สารเคมี อีกการปนเปื้อนหนึ่งคือปนเปื้อนเชื้อโรค ทั้งแบคทีเรียก่อโรค ไวรัส สารพิษจากเชื้อโรค ทั้งปรสิต อาหารกลุ่มนี้หากเลี่ยงได้ก็ต้องเลี่ยง เมื่อเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องล้างให้สะอาดอาหารก่อความเสี่ยงหรืออาจนับเป็นอาหารร้ายด้วยก็ได้คือสารสังเคราะห์ที่แม้ปลอดภัยแต่ควรจัดไว้ในกลุ่มอาหารที่ควรระวัง อย่างเช่นสีผสมอาหาร วิตามินสังเคราะห์ สารแต่งกลิ่นแต่งรส ผงชูรส พวกนี้เป็นสารเคมีสังเคราะห์ทั้งนั้น อันที่จริงกลุ่มนี้ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพสักเท่าไหร่ จึงไม่ควรกินให้มากนัก กรณีวิตามินสังเคราะห์ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เนื่องจากมักมีส่วนผสมแตกต่างจากวิตามินที่ได้จากธรรมชาติ เช่นขาดองค์ประกอบบางตัว หรือขาดสารไฟโตนิวเทรียนท์อื่นที่ปนมากับวิตามินธรรมชาติกลุ่มที่สามอย่างเข่นไขมันที่ก่อปัญหา เป็นกลุ่มที่อาจจะก่อโรคได้ อย่างเช่นกรดไขมันทรานส์ หรือคอเลสเตอรอลที่มีปริมาณสูงเกินไป อาหารกลุ่มนี้ต้องระวังหน่อย อาจทำให้เกิดโรคบางชนิดได้ กลุ่มที่สี่คือน้ำตาลอย่างเช่นน้ำตาลทรายและฟรุคโคสไซรัปจากข้าวโพด พวกนี้ให้น้ำตาลมากเกินจำเป็น ทั้งสี่กลุ่มแม้เป็นอาหาร แต่หากบริโภคไม่ถูกต้องอาจนับเป็นอาหารร้ายก็ได้ จำเป็นต้องดูแลปริมาณการบริโภคให้พอเหมาะไม่มากเกินไป หากปนเปื้อนก็ต้องชำระล้างให้สะอาด หรือเลือกบริโภคอาหารที่สะอาด เลือกอาหารที่สุก ดังนั้นความเข้าใจที่ว่าอาหารนั้นปลอดภัยเสมอจึงผิด อาหารร้ายก็มี และยุคนี้มีอยู่เต็มตลาดเสียด้วยซ้ำ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #อาหารร้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *