อาหรับ-เบอร์เบอร์ มุสลิมผู้สร้างอารยธรรมอิสลามในสเปน ตอนที่ 86

เกือบแปดศตวรรษในยุโรป มุสลิมอันดาลุสได้สร้างสรรค์วิทยาการ ความก้าวหน้า ถ่ายทอดให้กับชนยุโรปจำนวนมากกระทั่งทำให้ยุโรปก้าวเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาภายหลังผ่านยุคมืดมาได้ ตัวอย่างของบุคคลมีจำนวนมากมาย เช่น อับบาส อิบนฺ ฟิรนัส (Abbas ibn Firnas ค.ศ.810-887) มนุษย์คนแรกในโลกที่พัฒนาปีกเพื่อใช้ในการบิน, อบู อัล-ฆอเซ็ม อัล-ซาฮฺราวี อัล-อันซอรี (Abu Al-Qasim Al-Zahrawi Al-Ansari ค.ศ.936-1013) บิดาแห่งศัลยกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์, อิบนฺ ซุฮรฺ (ibn Zuhr/Aka Avenzoar ค.ศ.1093-1162) บิดาแห่งศัลยศาสตร์การทดลอง, อิบนฺ ตุเฟล (ibn Tufail ค.ศ.1105-1185) นักฟิสิกส์และดาราศาสตร์, อะเวอร์โรส หรือ อิบนฺ รุชดฺ (Averroes/ibn Rushd ค.ศ.1126-1198) นักฟิสิกส์ นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักปรัชญา, โมฮัมเหม็ด อิบนฺ อัสลาม อัล-ฆอฟิฆี (Mohammed ibn Aslam Al-Hhafiqi ค.ศ.ไม่รู้ปีเกิด-1165) ศัลยศาสตร์จักษุ, จักษุวิทยา, อิบนฺ อัลไบฏาร (ibn Al-Baytar ค.ศ.1197-1248) แพทยศาสตร์ด้านมะเร็ง เภสัชศาสตร์, อิบนฺ อัล-ฆอฏิบ (ibn Al-Khatib ค.ศ.1313-1374) นักฟิสิกส์ นักปรัชญา นักประวัติศาสตร์, อิบนฺ มุฮัมมัด อิบนฺ ฆอลดูน (ibn Khaldun ค.ศ.1332-1406) นักปราชญ์และปรัชญาที่รู้จักกันดีในยุโรป และนักวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ แพทยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ปรัชญาและอีกมากอาณาจักรมุสลิม “อัล-อันดาลุส” ดำรงอยู่ในไอบีเรียยาวนานถึง 781 ปี เริ่มใน ค.ศ.711 โดยมุสลิมอาหรับและเบอร์เบอร์จากอัฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ล่มสลายใน ค.ศ.1492 ความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างยาวนาน ระหว่างอันดาลุสกับผู้ครอบครองใหม่ที่เรียกกลุ่มตนเองว่า “รีคองกิสตา” ทำให้ฝ่ายหลังใช้หลายวิธีการเพื่อชำระล้างอดีตมิให้หลงเหลือภาพการปกครองของมุสลิมในไอบีเรีย ทั้งขับไล่มุสลิมทุกชนชาติไม่ว่าอาหรับ เบอร์เบอร์ ยุโรปหรือเชื้อสายอื่นออกจากอาณาจักร ทั้งบังคับให้เปลี่ยนศาสนา ต้นศตวรรษที่ 17 ยังขับไล่ลูกหลานมุสลิมที่แม้เปลี่ยนศาสนาไปแล้วให้ออกนอกอาณาจักรอีกครั้ง ขับไล่กันซ้ำซากเช่นนี้นานถึง 122 ปี กระทั่งมั่นใจว่าไม่เหลือร่องรอยอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือทายาทมุสลิม ชนชาติใด เชื้อสายไหน ล้างกันจนไม่เหลือคราบ กระทั่งหมดสิ้นจากแผ่นดินสเปนและปอร์ตุเกสที่ถือกำเนิดขึ้นในเวลานั้นนักเขียนนามอุโฆษชาวอเมริกันนาม “วอชิงตัน เออร์วิง” (Washington Irving ค.ศ.1783-1859) ใช้เวลา 17 ปีกับการท่องเที่ยวทั่วยุโรป สถานที่สุดท้ายที่ไปเยี่ยมเยืยนใน ค.ศ.1832 คือพระราชวังอัลฮัมบรา กรานาดา สเปน เขาเขียนรำลึกถึงเรื่องราวการขับไล่มุสลิมไว้ในหนังสือชื่อ Tales of Alhambra ของเขาไว้อย่างกินใจว่า “ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ไม่เคยมีการกวาดล้างผู้คนครั้งใดที่เบ็ดเสร็จมากไปกว่าการกระทำต่อชาวมุสลิมและโมริสโคอีกแล้ว ชนที่ถูกขับไล่หายสาบสูญไปไหน เป็นชายหาด หรือทะเลทราย ยากที่จะตามรอยเจอ ทว่าความสง่างามเมื่อได้เห็นจากพระราชวังอัลฮัมบรา แสดงถึงร่องรอยอารยธรรม ความรุ่งโรจน์ ของกลุ่มชนที่กล้าหาญ ชาญฉลาด ที่เคยพิชิต ปกครองและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับดินแดนไอบีเรียแห่งนี้ แม้ในวันนี้ชนกลุ่มนี้จะอันตธานสูญหายไปหมด ทว่าประจักษ์พยานที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่จริงของชนกลุ่มนี้ก็ยังคงอยู่” #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *