อัลโมราวิด (Almoravid) เป็นชื่อราชวงศ์และอาณาจักรในอัฟริกาเหนือที่เข้าไปปกครองอันดาลุสในสเปนช่วง ค.ศ.1090-1147 ชื่อเขียนตามภาษาสเปนอ่านได้ว่าอัลโมราบิด ซึ่งมาจากภาษาอาหรับว่า “อัลมุรอบิเฏาะฮฺ” หมายถึงการผูกเข้าด้วยกัน อาณาจักรนี้เริ่มโดยนักวิชาการศาสนาอิสลามในมัซฮับมาลิกีชื่อ ยะฮฺยา อิบนฺ อิบราฮิม ต่อมาจัดตั้งเป็นรัฐหรืออาณาจักรใน ค.ศ.1040 โดยอับดุลเลาะฮฺ อิบนฺ ยาซีน ส่วนการสถาปนาเป็นราชวงศ์เริ่มโดยยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน ที่เข้ามาปกครองร่วมใน ค.ศ.1061 สืบทอดราชวงศ์ไปสู่บุตรและหลานในฐานะอามิรหรือผู้นำที่อาจเรียกเป็นสุลต่านก็ไม่ผิดรวมทั้งสิ้น 5 พระองค์ สิ้นสุดราชวงศ์ใน ค.ศ.1147 ช่วงเวลาการปกครองของอัลโมราวิด 107 ปีในอัฟริกาเหนือและ 57 ปีในอันดาลุส แม้ไม่ยาวนานนักทว่าราชวงศ์นี้ได้พัฒนาความก้าวหน้าด้านต่างๆไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานสถาปัตยกรรม งานการศึกษา งานศาสนา งานด้านอักษรศาสตร์ เป็นอารยธรรมร่วมระหว่างดินแดนมัฆริบกับอัลอันดาลุสสร้างเป็นลวดลายจำเพาะที่มีความงดงาม เรียกกันว่าสไตล์ “มัฆริบี-อัลอันดาลุส” ได้รับความนิยมในหมู่ผู้นิยมงานศิลปกรรมค่อนข้างสูง อารยธรรมอิสลามที่พัฒนาขึ้นในยุคอัลโมราวิดและอัลโมฮัดที่ตกทอดในสเปน เรียกรวมกันว่า “อารยธรรมมัวร์” (Moorish civilization) มีความโดดเด่นแตกต่างจากอารยธรรมอาหรับซึ่งพัฒนาขึ้นในยุคสมัยของราชวงศ์อุมัยยะฮฺช่วงที่ปกครองอันดาลุส อารยธรรมมัวร์เหล่านี้ปรากฏอยู่ในสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ลวดลายกระเบื้องโมเสค ลายผ้า ภาพเขียน การประดิษฐ์อักษร เครื่องปั้นดินเผา เครื่องโลหะต่างๆ รวมถึงงานประพันธ์ แสดงถึงอารยธรรมที่สูงส่งของกลุ่มชนเบอร์เบอร์ ใครที่เคยเข้าใจว่าชนอัฟริกันมีความล้าหลัง หากได้เห็นศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมของชนมัวร์หรือเบอร์เบอร์ที่ปรากฏอยู่ในสเปนและปอร์ตุเกสแล้วเป็นต้องเปลี่ยนความคิด ในยุคสมัยของยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน งานอักษรศาสตร์และการประพันธ์ก้าวหน้ามาก โดยพบโรงงานกระดาษถึง 104 แห่งเฉพาะในเมืองเฟซ (Fez) ของโมรอคโคเมืองเดียว พัฒนาการด้านศาสนา การก่อสร้างมัสยิดต่างๆเกิดขึ้นมากมายในยุคสมัยของยูซุฟ ขณะที่พัฒนาการด้านการศึกษาเป็นไปอย่างก้าวหน้าในยุคสมัยของอาลี อิบนฺ ยูซุฟ ความรุ่งเรืองด้านอารยธรรมของโลกอิสลามในไอบีเรียก้าวหน้ากว่าอารยธรรมของคริสเตียนในยุคเดียวกัน การถ่ายทอดอารยธรรมอาหรับและมัฆริบ-อัลอันดาลุสสู่ยุโรปจึงเกิดขึ้นตลอดหลายศตวรรษของอาณาจักรมุสลิมอันดาลุส ปลายราชวงศ์อัลโมราวิดหลังยุคสมัยของอาลี อิบนฺ ยูซุฟ การก่อกบฏจากกลุ่มอัลโมฮัดในอัฟริกาเหนือและตะวันตกเพิ่มความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบไปยังการปกครองของอัลโมราวิดในไอบีเรีย ภาวะสุญญากาศทางอำนาจที่ลามจากอัฟริกาเหนือเข้าไปยังแผ่นดินอันดาลุสส่งผลให้อาณาจักรคริสเตียนเปิดการรุกมากขึ้น ทำให้อัลโมราวิดสูญเสียดินแดนในไอบีเรียไปค่อนข้างมาก ความขัดแย้งของมุสลิมในอัฟริกาเหนือจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรมุสลิมในไอบีเรียอย่างปฏิเสธไม่ได้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน