ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องของการบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรยากจะล่วงรู้ ลองดูประวัติศาสตร์ไทยกับพม่าก็แล้วกัน ไทยว่าไปทาง พม่าว่าไปอีกทาง บทสรุปสุดท้ายอาจตรงกัน ทว่าในรายละเอียดอาจเป็นคนละเรื่องไปเลยก็ได้ เรื่องราวของอันดาลุสก็ไม่ต่างกัน การศึกของอัลโมราวิดในสเปน บันทึกของมุสลิมและคริสเตียนว่ากันไปคนละทาง ยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน คือวีรบุรุษในฝั่งมุสลิม ทว่าในบันทึกของสเปน มองยูซุฟเป็นผู้ร้าย มีบางบันทึกระบุไปในเชิงลบถึงขนาดว่าไทฟามุสลิมตัดสินใจผิดที่ขอความช่วยเหลือจากอัลโมราวิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยูซุฟ กลับกลายเป็นอย่างนั้นในยุคสมัยของไทฟา กองทัพคริสเตียนมีวีรบุรุษอย่างน้อยหนึ่งพระองค์กับหนึ่งคน นั่นคือกษัตริย์อัลฟองโซที่ 6 กับจอมอัศวินอย่างเอลซิด (El Cid) เมื่ออันดาลุสแตกออกเป็นไทฟาหลังยุคสมัยของราชวงศ์อุมัยยะฮฺ กองทัพคาสติล เลออนและอะรากอนที่นำโดยกษัตริย์อัลฟองโซที่ 6 ไล่ยึดพื้นที่ของมุสลิมในสเปนไปทีละไทฟา กระทั่ง ค.ศ.1085 ฝ่ายมุสลิมเสียไทฟาสำคัญอย่างโทเลโดและบาเลนเซียทำให้ไทฟาส่วนที่เหลือออกอาการตื่นตระหนก ขุนศึกคนสำคัญของฝ่ายคริสเตียนคือเอลซิดที่มีบันทึกมากมายกล่าวขานถึงความเป็นวีรบุรุษ ทว่าการมาของคู่แข่งคนสำคัญทำให้รัศมีของทั้งกษัตริย์อัลฟองโซที่ 6 และเอลซิดต้องมัวหมองลงนั่นคือยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน ผู้ปกครองอัลโมราวิดจากอัฟริกาเหนือ ทัพของยูซุฟได้ชัยชนะอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายให้กับฝ่ายคาสติลอย่างมากในการศึกแห่งซากราจาส ค.ศ.1086 บันทึกของมุสลิมระบุว่าอัลโมราวิดมีกำลังทัพน้อยกว่าชนิด 2-3 ต่อ 1 ขณะที่บันทึกของสเปนมีว่าทัพมุสลิมมีกำลังพลมากกว่า 10-20 ต่อ 1 แตกต่างกันมากมายขนาดนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรวันเวลาผ่านมาเกือบพันปีย่อมยากที่จะพิสูจน์ ทว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมีอยู่ในบันทึกทางประวัติศาสตร์นั่นคือเอลซิดที่เป็นวีรบุรุษสงครามของฝ่ายคริสเตียนผู้นี้คือทหารรับจ้าง รบให้กับกษัตริย์อัลฟองโซที่ 6 บ้าง รบให้กับไทฟามุสลิมบ้าง เรื่องราวเช่นนี้เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าศึกในไอบีเรียไม่ใช่สงครามครูเสดระหว่างคริสเตียนกับมุสลิมอย่างที่เข้าใจกัน เป็นสงครามการเมืองเรื่องผลประโยชน์เสียมากกว่าประวัติศาสตร์มีเรื่องราว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่กลายเป็นตำนานเล่าขานน่าสนใจเสมอ ช่วงกลางศตวรรษที่ 13 ขณะที่ทัพมองโกลของฮูลากูข่านสร้างชัยชนะในตะวันออกกลางชนิดที่หาใครต้านทานไม่ได้ กลับปรากฏว่ามุสลิมเกิดขุนพลมัมลุกอย่างเบบาร์ส (Baybars) ที่เรืองโรจน์ขึ้นมาแข่ง ย้อนกลับมาในศตวรรษที่ 12 ทัพครูเสดของยุโรปมีจอมทัพอย่างกษัตริย์ริชาร์ดใจสิงห์แห่งอังกฤษ ทัพมุสลิมกลับปรากฏจอมคนอย่างศอลาฮุดดินก้าวขึ้นมาทาบรัศมี ย้อนเวลาขึ้นไปอีกเมื่อกล่าวถึงจอมกษัตริย์อย่างอัลฟองโซที่ 6 ที่มีขุนพลข้างกายอย่างเอลซิดนำทัพคริสเตียนในศึกแห่งไอบีเรีย ทัพมุสลิมกลับมีแม่ทัพเอกอุด้านความสามารถอย่างยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน ชิงเหลี่ยมชิงคมกันได้ถึงพริกถึงขิงสร้างตำนานระดับคลาสสิก ประวัติศาสตร์จึงเป็นเรื่องน่าสนุก น่าติดตามเสมอ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน