อาหรับ-เบอร์เบอร์ มุสลิมผู้สร้างอารยธรรมอิสลามในสเปน ตอนที่ 48

ชนอาหรับในอัลอันดาลุสเป็นชนชั้นปกครองมาโดยตลอดนับตั้งแต่ ค.ศ.711 กระทั่งสิ้นสุดราชวงศ์อุมัยยะฮฺใน ค.ศ.1031 ช่วงท้ายนับตั้งแต่เริ่มยุคคอลีฟะฮฺอัลฮิชัมที่ 2 ใน ค.ศ.976 ขุนนางอย่างอัลมันซูร (Al Mansur) ถืออำนาจไว้ในมือ แม้เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจทว่าบริหารผิดพลาด จัดสรรอำนาจให้กับขุนศึกชาวเบอร์เบอร์ได้ปกครองส่วนต่างๆของอันดาลุส เค้ารางความแตกร้าวของอาณาจักรจึงเริ่มต้นขึ้น ความสับสนอลหม่านหลังการเสียชีวิตของอัลมันซูรใน ค.ศ.1002 เป็นผลให้อาณาจักรเริ่มแตกแยกตั้งแต่ ค.ศ.1007 ถึง ค.ศ.1031 เมื่อราชวงศ์อุมัยยะฮฺล่มสลาย อาณาจักรอันดาลุสแตกเป็นไทฟามากถึง 21 แห่ง หลังจากนั้นนาน 60 ปีเป็นช่วงเวลาของความวุ่นวายระหว่างไทฟา หลายดินแดนสูญเสียให้กับอาณาจักรคริสเตียนที่ใช้โอกาสรุกกินพื้นที่เข้ามา การรักษาอันดาลุสไว้ได้เห็นทีต้องพึงพากำลังจากภายนอกเท่านั้นพ้นจากอันดาลุสในสเปนข้ามช่องแคบเข้ามาในอัฟริกาเหนือใน ค.ศ.1086 คืออาณาจักรอัลโมราวิดหรืออัลมุรอบิฏุนที่มีผู้ปกครองเป็นชนเบอร์เบอร์หรืออะมาซิกฮฺเผ่าพันธุ์ที่มีพื้นเพมาจากดินแดนซาฮารา จาก ค.ศ.1086-1091 สุลต่านยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน (Yusuf ibn Tashfin) แห่งอาณาจักรอัลโมราวิดที่ได้รับการร้องขอให้เข้ามาแก้ปัญหาในอันดาลุสได้เวียนเข้าออกไอบีเรียถึงสามครั้งเนื่องจากเกิดปัญหาในราชอาณาจักรของพระองค์ กองทัพอัลโมราวิดโดยแม่ทัพที่มากความสามารถหลายคนทำศึกได้ชัยชนะหลายครั้ง ยึดคืนหลายเมืองจากฝ่ายคริสเตียนรวมถึงคอร์โดบาหรือฆุรตุบะฮฺที่สูญเสียไปก่อนหน้านั้นในบรรดาแม่ทัพฝ่ายคริสเตียน บุคคลที่ทำศึกกับทัพอัลโมราวิดได้กล้าหาญชาญชัยที่สุดคือนายพลทหารรับจ้างที่ชื่อโรดริโก ดิอาซ เดอวิวาร์ (Rodrigo Díaz de Vivar) รู้จักกันในฉายาว่า “เอลซิด” (El Cid) ทัพมุสลิมที่มีกำลังพลห้าหมื่นนายต้องขับเคี่ยวกับทัพของเอลซิดที่มีกำลังพลไล่เรี่ยกัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ กระทั่ง ค.ศ.1099 ทัพมุสลิมยึดบาเลนเซีย (Valencia) ที่มั่นของเอลซิดได้ โดยเอลซิดเสียชีวิตในที่รบ แม้กระนั้นสงครามระหว่างสองฝ่ายยังคงดำเนินต่อไป อัลโมราวิดผนวกอันดาลุสเข้ากับอาณาจักรในโมรอคโค สุลต่านยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน ที่อยู่ทำศึกในอันดาลุสมาโดยตลอดดำรงตำแหน่งเป็นสุลต่านอันดาลุสอีกตำแหน่งหนึ่ง จนถึง ค.ศ.1106 สุลต่านยูซุฟจึงถึงแก่อนิจกรรม ราชวงศ์อัลโมราวิดมีสุลต่านปกครองทั้งอัฟริกาเหนือและอันดาลุสอีก 4 พระองค์กระทั่งถึง ค.ศ.1147 ราชวงศ์อัลโมราวิดจึงล้มครืนลงจากการก่อรัฐประหารของราชวงศ์อัลโมฮัด (Almohad) ที่เริ่มบ่อนเซาะอำนาจของอัลโมราวิดมาตั้งแต่ ค.ศ.1105 แล้วจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ เมื่อสิ้นยุคราชวงศ์อุมัยยะฮฺ อันดาลุสแตกเป็นไทฟาจำนวนมากมาย การแตกสามัคคีกันระหว่างมุสลิมใกล้นำอันดาลุสไปสู่ภาวะสิ้นสภาพเต็มที หากไม่มีมือของอัลโมราวิดยื่นเข้ามาช่วย อาณาจักรมุสลิมอันดาลุสคงจบสิ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 11 แล้ว ความช่วยเหลือของอัลโมราวิดช่วยต่ออายุอาณาจักรมุสลิมออกไปได้อีกถึงสี่ศตวรรษ กระทั่งถึงคราวสิ้นสุดลงจริงๆตอนปลายศตวรรษที่ 15 อย่างที่รู้กัน #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *