อัลมาตี คาซักสถาน ที่ได้เห็น

เมื่อ ดร.อาณัฐ เด่นยิ่งโยชน์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จฬ. ขอให้ผมร่วมเดินทางไปคาซักสถาน พร้อมทีมงานเอสเอ็มอีนำโดย ผศ.ดร.ภราดร สุรีย์พงษ์ จากสำนักงานเชียงใหม่ ผมไม่อยากร่วมเดินทางไปสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะไม่รู้จักคาซักสถาน ผมรู้จักดี เพราะเคยเขียนเรื่องราวของประเทศนี้มาแล้วในหนังสือเรื่อง “เติร์ก จากชนเผ่าเร่ร่อนสู่จักรวรรดิ” ชนคาซักเป็นหนึ่งในชนเผ่าเติร์ก มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ แต่พักหลังงานยุ่งจนแทบปลีกตัวไปไหนไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปร่วมเพราะมีงานบรรยาย ทั้งต้องพบอธิการบดีของมหาวิทยาลัยระดับท็อปของคาซักสถาน ผมจึงทิ้งงานทางกรุงเทพฯ ใช้เวลาระหว่างวันอังคารที่ 10 ถึงวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 รวม 5 วัน ไปจนกระทั่งกลับมาแล้ว บอกได้เลยว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

เราเดินทางไปที่เมืองอัลมาตี (Almaty) เมืองหลวงเก่าของคาซักสถาน เป็นเมืองใหญ่สุดในประเทศ พวกเราเคยไปอุซเบกิสถาน เพื่อนบ้านของคาซักสถานมาแล้วจึงเข้าใจว่าน่าจะคล้ายคลึงกัน เอาเข้าจริงคาซักสถานพัฒนาก้าวหน้าไปกว่าประเทศอื่นในเอเชียกลางค่อนข้างมาก อัลมาตีพัฒนาไปจนใกล้เคียงยุโรป มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ต่างจากยุโรปสักเท่าไหร่ บ้านเมืองเป็นระเบียบสวยงาม ตัวเมืองห้อมล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง ศูนย์พัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีของเมืองที่เรียกว่า Smart Point ก้าวหน้ากระทั่งกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมืองและประเทศ เป็นคล้ายที่เคยไปเห็นในประเทศญี่ปุ่น

ต้องขอบคุณทางสถานเอกอัครราชทูตไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณ อรทัย ภูบุญลาภ กูนาซีลาน อุปทูตที่สู้อุตส่าห์เดินทางมาจากกรุงอัสตานาเพื่อมาดูแลพวกเรา ทั้งส่งเจ้าหน้าที่ชาวคาซักอย่างคุณการิมและคุณการิยาให้มาช่วยเหลือ ทำให้ประทับใจกับประเทศสวยงามแห่งนี้มากขึ้นไปอีก สุดท้ายยังได้ขึ้นไปเยี่ยมเยือนสถานีสกีบนเทือกเขาไม่ไกลจากเมืองนัก ทำให้ได้รู้ว่าคาซักสถานมีสถานที่เที่ยวชมมากมายที่คนไทยอย่างพวกเราควรได้ไปชมสักครั้ง #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #อัลมาตี, #คาซักสถาน, #ภราดรสุรีย์พงษ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *