ก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19 เคยฟังเพื่อนจากจังหวัดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวบ่นเรื่องค่าครองชีพให้ฟังว่าแพงเหลือเกินทั้งอาหารการกิน ทั้งการเดินทาง ทั้งความเป็นอยู่ มาวันนี้นักท่องเที่ยวหายไปหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกาก็ไม่เว้น เพื่อนบ่นหนักกว่าเก่าว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับหน้ากากอนามัยผืนละไม่ต่ำกว่า 20 บาทที่ต้องใช้แล้วทิ้ง จากเดิมราคาแผ่นละไม่ถึง 2 บาทซึ่งไม่จำเป็นต้องใส่ ไหนจะเจลล้างมือขวดละเกือบร้อย ที่เดิมทีไม่เคยใช้ จึงต้องแนะนำเพื่อนหน่อย หาไม่แล้วกว่าเหตุการณ์โควิด-19 จะสงบ เพื่อนคงล้มละลายไปเป็นที่เรียบร้อย
แนะนำข้อแรกเป็นเรื่องการติดเชื้อ โควิด-19 ติดต่อกันทางการสัมผัส ไม่ว่าจะสัมผัสร่างกายผู้ป่วย หรือสัมผัสเสมหะผู้ป่วยซึ่งมีหลายรูปแบบ สัมผัสเสมหะโดยตรงหรือละอองเสมหะที่มีขนาดโตกว่า 5 ไมครอน (droplets) เป็นการสัมผัสด้วยมือแล้วมาสัมผัสหน้ากระทั่งเข้าสู่ร่างกายผ่านปากหรือจมูก หรือสัมผัสละอองฝอยที่ผู้ป่วยไอจามระยะใกล้ หรือสัมผัสละอองฝอยเล็กกว่า 5 ไมครอน (aerosol) ที่ผ่านเข้ามาจากการจามหรือไอของผู้ป่วยในระยะใกล้ หรือติดอยู่บนพื้นผิวต่างๆ เช่น มือจับประตู ปุ่มลิฟท์ ภาชนะต่างๆ ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือสาเหตุของการติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่มีรายงานว่าติดเชื้อจากการหายใจในพื้นที่ที่ไม่มีผู้ป่วยอยู่ในระยะใกล้บริเวณนั้น (airborne)
วิธีใช้ชีวิตโดยหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในสังคมโควิด-19
1. อย่าสิ้นเปลืองกับหน้ากากอนามัยราคาแสนแพง หากใส่หน้ากากอาจติดเชื้อง่ายขึ้นด้วยซ้ำเพราะใช้มือขยับหน้ากากบ่อย
2. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในที่แออัด สังเกตคนที่อาจเป็นหวัดไอจาม พยายามห่างคนเหล่านี้ไม่ต่ำกว่าสองเมตร หากเกิดการไอจามให้กลั้นหายใจ ปิดปากจมูกด้วยผ้าเช็ดหน้ารีบถอยห่างจากบริเวณให้มากที่สุด
3. หากไอหรือจาม ปิดปากจมูกด้วยท่อนแขนอย่าใช้มือ
4. ตัวการใหญ่ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อคือมือของเราเอง เลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวต่างๆ ปล่อยมือไว้ข้างลำตัว เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า
5. ล้างมือให้บ่อย อาจใช้เจลที่มีให้บริการตามที่ต่างๆ ไม่ต้องซื้อ หรือล้างมือในห้องน้ำด้วยสบู่หรือด้วยน้ำไหลผ่านปริมาณมาก ล้างอย่างถูกต้องให้ทั่วถึง 7 ขั้นตอนคือฝ่ามือ หลังมือ ง่ามนิ้ว หัวแม่มือ หลังนิ้วมือ ปลายนิ้ว ข้อมือ ใช้เวลาพอควรเช่น 20 วินาที กะเวลาได้จากเพลง happy birthday to you สองครั้ง
6. เลี่ยงอาหารบุฟเฟ่ เลี่ยงอาหารดิบ กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ
7. ไม่สัมผัสตัวผู้อื่น เลี่ยงการจับมือแบบฝรั่งหรือแบบมุสลิม เลี่ยงการสวมกอด หอมแก้ม ทักทายด้วยการไหว้แบบไทยหรือยกมือสลามแบบมุสลิม
8. งดการใช้หรือสัมผัสเครื่องใช้ของผู้อื่น หากสัมผัสตัวผู้อื่นหรือเครื่องใช้ อย่านำมือสัมผัสหน้า จนกว่าจะล้างมือด้วยน้ำหรือเจลอย่างถูกต้อง
9. อาบน้ำชำระร่างกายเมื่อกลับจากภายนอก
10. ทำร่างกายให้แข็งแรง สร้างภูมิต้านทาน เช่น ออกกำลังกายแบบแอโรบิกหากเป็นมุสลิมแนะนำการละหมาดฟัรฎูและสุนัตซึ่งชำระล้างร่างกายจากการอาบน้ำละหมาด ละหมาดฟัรฎูครบเทียบเท่าออกกำลังกายใช้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี หากเพิ่มละหมาดสุนัตร่อวาติบ 12 รอกะอัตใช้พลังงานเทียบเท่าออกกำลังกาย 150 กิโลแคลอรี ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน
11. กินผักผลไม้สะอาดให้มากขึ้น ดื่มหรือจิบน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มวิตามินซีธรรมชาติ
12. จิบน้ำให้บ่อย ติดน้ำขวดไว้กับตัวหรือพกกระติกน้ำอุ่นขนาดเล็ก
13. เลี่ยงความเครียดโดยทำสมาธิ พักผ่อน นอนหลับให้พอ หรือทำสมาธิผ่านการละหมาด
