กล้องโทรทรรศน์หรือเทเลสโคปสำรวจอวกาศแต่เดิมติดตั้งกันอยู่บนพื้นโลกกระทั่ง ค.ศ.1990 นาซ่าจึงนำกล้องเทเลสโคปชื่อ “ฮับเบิล” (Hubble) ขึ้นไปแขวนลอยบนอวกาศสูงจากพื้นโลก 547 กิโลเมตรซึ่งสามารถถ่ายภาพดวงดาวได้ชัดเจนกว่า กล้องผ่านการซ่อมแซมใหญ่ใน ค.ศ.1999 ช่วยให้ถ่ายภาพดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์มาได้กว่า 2,000 ดวง คาดกันว่าในจำนวนนั้นน่าจะมีหลายดวงที่เหมาะสมให้มนุษย์จากโลกไปตั้งนิคมอวกาศอยู่ได้ อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อใช้เป็นโลกสำรองในกรณีที่อาศัยอยู่ในโลกของเราไม่ได้แล้ว จนถึงวันนี้ยังไม่พบดาวเคราะห์ดวงไหนเลยที่มีสภาพแวดล้อมเหมือนโลก จะมีก็เพียงดาวเคราะห์ที่อาจจะอาศัยอยู่ได้เท่านั้น ส่วนจะเดินทางไปถึงได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ค.ศ. 2018 นาซ่าส่งดาวเทียม TESS ออกไปสำรวจดาวเคราะห์ที่อยู่ภายนอก โดยดาวเทียมดวงนี้ติดตั้งกล้องเทเลสโคปให้ทำงานร่วมกับกล้องฮับเบิลในช่วงแรก นอกจากนี้ยังมีเทเลสโคปอีกหลายกล้องขึ้นไปช่วยงานฮับเบิล คาดว่าใน ค.ศ.2021 นาซ่าจะส่งเทเลสโคปกล้องใหม่ที่ชื่อ James Webb ขึ้นไปแขวนลอยในอวกาศเพื่อทำงานร่วมกับ TESS ฮับเบิลและกล้องอื่นๆ ทำให้สามารถสำรวจดวงดาวที่อยู่ไกลออกไป โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะตรวจดาวเคราะห์ต่างๆจำนวน 200,000 ดวงที่อยู่โดยรอบระบบสุริยะของโลก
ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่ากล้องฮับเบิล 2.7 เท่า กล้องเทเลสโคป James Webb จะมีส่วนช่วยอย่างมากในการเสริมข้อมูลของกล้องฮับเบิลที่ยังคงเดินหน้าสำรวจดาวเคราะห์ในอวกาศได้อีกหลายปี สิ่งที่เครือข่ายกล้องเทเลสโคปร่วมกับดาวเทียมดวงใหม่ๆช่วยกันจัดทำคือการทำลายนิ้วมือเคมีของดาวเคราะห์แต่ละดวงที่ค้นพบ กระทั่งในที่สุดสามารถสร้างแผนที่ดาวเคราะห์ที่พบเหล่านั้น นำไปสู่การศึกษาสภาพแวดล้อมของดาวเคราะห์แต่ละดวง นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่าจะรู้จักดาวเคราะห์ดวงใหม่ๆเพิ่มเติมขึ้น ทำให้ความหวังในการสร้างสถานีอวกาศนอกระบบสุริยะจักรวาลของโลกมีมากขึ้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาองค์การนาซ่าได้พัฒนากล้องเทเลสโคปที่มีศักยภาพมากขึ้นเพื่อนำขึ้นไปติดตั้งบนชั้นอวกาศของโลก กล้องฮับเบิลเองมีเลนส์ขนาด 2.4 เมตร ขณะที่กล้อง James Webb มีเลนส์ขนาด 6.5 เมตร ก่อนหน้านี้นาซ่าสร้างกล้อง Keck ติดตั้งบนยอดเขามีขนาดเลนส์ 10 เมตร รวมถึงกล้อง HDST ที่มีเลนส์ขนาด 11.7 เมตร เพื่อเป็นเครือข่ายกล้องเทเลสโคปช่วยเปิดจักรวาลให้กับองค์การนาซ่า ทำให้องค์การนาซ่าและอีซ่าของยุโรปตลอดจนนักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้เห็นภาพของจักรวาลในมิติที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนโอกาสที่จะเดินทางออกไปยังดวงดาวอันไกลโพ้นเห็นทีต้องรอกันอีกนาน จะอีกเมื่อไหร่ มนุษย์จึงสามารถเดินทางออกไปสำรวจอวกาศนอกระบบสุริยะได้ จะเป็นในชั่วชีวิตของพวกเราหรือไม่ยังไม่มีใครกล้าคาดเดา