กลัวว่าผู้คนในโลกจะไม่เห็นปัญหาของโรคอ้วน (obesity) สมาพันธ์อ้วนโลก (World Obesity Federation) ที่มีสมาชิกเป็นองค์กรสำคัญด้านสุขภาพทั่วโลกจึงร่วมกันจัด “วันอ้วนโลก” (World Obesity Day) ขึ้น เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2558 เป็นปีแรก โดยก่อนหน้านั้น 5 ปี สมาพันธ์อ้วนยุโรปเริ่มจัดงานขึ้นมาก่อน วัตถุประสงค์ก็เพื่อเตือนให้ผู้คนในโลกตระหนักถึงปัญหาของโรคอ้วนที่นับวันจะยิ่งสาหัส ก่อสารพันโรคตามมาทั้งเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ข้อเข่าเสื่อม อวัยวะเสื่อม ประสาทเสื่อม ปัญหาความดันโลหิต ไปจนถึงมะเร็ง ทำให้คนทั่วโลกอ่อนแอลง ภูมิต้านทานโรคลดลง น่าห่วงขนาดนั้นต้องทำอะไรบ้าง ก็ต้องหันมามองตัวเองว่าอ้วนกับเขาบ้างหรือเปล่า ดูง่ายๆที่น้ำหนักตัวเทียบกับส่วนสูง วัดที่ความสูงคิดเป็นเมตรได้เท่าไหร่เอาตัวเลขเก็บไว้ ชั่งน้ำหนักตัวคิดเป็นกิโลกรัม ได้ค่าเท่าไหร่เอาตัวเลขที่เก็บไว้มาหาร ค่าที่ได้ไม่ควรเกิน 23 หากเกินแล้ว แสดงว่าท้วมหรือน้ำหนักเกินแล้ว หากตัวเลขที่ได้สูงถึง 30 หรือมากกว่าแสดงว่าเป็นโรคอ้วนแล้ว ต้องหาทางลด อย่าปล่อยไว้วิธีลดโรคอ้วนหรือความอ้วนทำได้โดยลดอาหารให้พลังงานเพื่อไม่ให้ไปสะสมเป็นไขมันพอกตามร่างกาย พลังงานรวมที่มากเกินคือปัญหาใหญ่ ลดแป้งขัดขาว ลดน้ำตาล เป็นหลัก ลดอาหารไขมันรวมทั้งอาหารประเภททอดท่วมใช้น้ำมันมากๆ ลดอาหารหากไม่ออกกำลังกายเพื่อรักษาหรือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ อาจไม่ได้ผล เจอปัญหาโยโย่เข้าไปอีก ออกกำลังกายง่ายๆด้วยการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะสักครึ่งชั่วโมง สองสามครั้งในหนึ่งอาทิตย์ สำคัญที่สุดคือระวังเรื่องการกินไว้ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ระวังตัวไว้ให้มาก อย่าให้อ้วนอย่างเด็ดขาด อ้วนเมื่อไหร่ต้องรีบลด #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #วันอ้วนโลก