ลดอาการชราของ “สมอง”

เรื่องนี้จะตั้งชื่อว่า “ลดอายุสมอง” คงไม่เหมาะ เพราะอาจตีความได้ทำนองว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุสมองเหมือนเด็กก็ได้ เอาเป็นว่าลดความแก่ชราของสมองน่าจะเหมาะกว่า คนเราเมื่อมีอายุมากขึ้นประสบการณ์ที่สะสมย่อมสูงขึ้น สมองก็ไม่ต่างกัน โดยสะสมประสบการณ์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วัยหนุ่มแม้สมองเติบโตเต็มที่แล้วแต่ยังคงพัฒนาต่อไปด้วยประสบการณ์ไม่จบไม่สิ้น ผ่านเข้าวัยชรา ประสบการณ์แม้ยังไม่ทันหมดแต่สมองรับไม่ไหวเสียแล้วโดยค่อยๆทำลายตัวเองไปทีละน้อย ทำอย่างไรจึงจะเสริมสมองให้เหมือนใหม่นี่คือคำถาม

วิธีการง่ายๆในการต่ออายุให้แก่สมองคือการใช้ “สอง อ.” ได้แก่ อาหารกับออกกำลังกาย สมองไม่ต่างจากร่างกาย หากได้อาหารดี มีคุณภาพ สมองก็เสื่อมช้าหรือชราช้าลง หากได้ออกกำลังสมองอย่างสม่ำเสมอ ได้ฝึกฝนการใช้สมองบ่อยๆสมองก็มีอายุยืนนานขึ้น การออกกำลังสมอง อย่างเช่น การฝึกทักษะการใช้มือ การคิดคำนวณ การเล่นปริศนาอักษรไขว้ การเล่นซูโดกุ ส่วนเรื่องโภชนาการสมองถือเป็นเรื่องสำคัญ กระบวนการทำงานของสมองประกอบไปด้วยความจำ ความมีเหตุมีผล การแก้ปัญหา การทำงานด้านต่างๆ การวางแผน ทั้งหมดนี้เสื่อมถอยลงตามอายุ คนแก่จึงไม่ฉับไวเหมือนคนหนุ่ม ทำงานช้าลง ตัดสินใจช้าลง กลไกเหล่านี้เรียกว่ากลไกบริหาร หากได้รับอาหารดี มีงานวิจัยยืนยันว่าสามารถชะลอความเสื่อมของกลไกบริหารของสมองได้ถึงร้อยละ 35

งานวิจัยที่ว่านี้มาจากวิทยาลัยการแพทย์อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นครนิวยอร์ค ในการทดลองที่รายงานใน ค.ศ.2015 มีการสำรวจในคนชราอายุเฉลี่ย 80 ปีจำนวน 550 คน เลือกเฉพาะคนที่ไม่มีปัญหาประสาทเสื่อม ทำการตรวจสอบอาสาสมัครเหล่านี้ลึกลงไปในรายละเอียดพบว่ามีปัญหาทางด้านประสิทธิภาพของสมองอยู่บ้าง คนที่ได้อาหารดี ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะยืนนาน ต่างจากคนได้รับอาหารเลว อาหารดีคือไม่บริโภคกรดไขมันอิ่มตัวมากไป เลี่ยงกรดไขมันทรานส์ ลดปริมาณน้ำตาลลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลจากน้ำอัดลม การได้รับถั่วเปลือกแข็งหรือถั่วนัท ได้ผักผลไม้ กรดไขมันโอเมก้าสาม ได้รับวิตามินธรรมชาติ โดยได้รับวิตามินสังเคราะห์น้อยลง สังเกตเห็นได้ว่าอาหารเหล่านี้คล้ายคลึงกับอาหารดูแลหลอดเลือดหัวใจ สรุปคือหากได้รับอาหารที่ทำให้หัวใจดีขึ้น สมองก็ย่อมดีตาม