อุกาบาตที่มีน้ำแข็งเป็นองค์ประกอบจำนวนมากจากเขตเมฆออร์ทที่หลุดเข้าชั้นในระบบสุริยะกระทั่งถึงชั้นบรรยากาศของโลกค่อยๆรวมตัวกันด้วยแรงดึงดูดกระทั่งกลายเป็นภูเขายักษ์ที่มีน้ำแข็งอยู่ภายในคาดว่ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 กิโลเมตร พุ่งเข้าปะทะโลกด้วยความเร็ว 16-32 กิโลเมตรต่อวินาทีหรือ 57,600-115,200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างหลุมยักษ์ที่มีชื่อว่าปล่องชิกซูลุบ (Chicxulub crater) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่สุด 150 กิโลเมตร ลึก 20 กิโลเมตร ปริมาณกำมะถันและน้ำแข็งภายในอุกาบาตฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งโลก สร้างฝนกรดและเมฆหมอกมืดมิดปกคลุมโลกนานนับสิบปี ก่อมหันตภัยระดับยิ่งยวดให้กับชีวิตทั้งพืชและสัตว์ในเวลานั้น ทิ้งเวลาไว้ระยะหนึ่งโลกจึงค่อยๆฟื้นตัว นี่คือคำบรรยายเหตุการณ์อุกาบาตน้ำแข็งพุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีมาแล้วโดยนักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่ม ถ้อยความคล้ายคลึงกันกลับปรากฏอยู่ในอัลกุรอานเป็นที่น่ามหัศจรรย์
أَلَمۡ تَرَ أَنَّ ٱللَّهَ يُزۡجِى سَحَابً۬ا ثُمَّ يُؤَلِّفُ بَيۡنَهُ ۥ ثُمَّ يَجۡعَلُهُ ۥ رُكَامً۬ا فَتَرَى ٱلۡوَدۡقَ يَخۡرُجُ مِنۡ خِلَـٰلِهِۦ وَيُنَزِّلُ مِنَ ٱلسَّمَآءِ مِن جِبَالٍ۬ فِيہَا مِنۢ بَرَدٍ۬ فَيُصِيبُ بِهِۦ مَن يَشَآءُ وَيَصۡرِفُهُ ۥ عَن مَّن يَشَآءُۖ يَكَادُ سَنَا بَرۡقِهِۦ يَذۡهَبُ بِٱلۡأَبۡصَـٰرِ
“เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่าอัลลอฮทรงเคลื่อนเมฆเข้ามา จากนั้นทรงทำให้รวมตัวกัน เกิดเป็นมวลขนาดใหญ่ และพระองค์ทรงให้มันตกจากฟากฟ้าขนาดเท่าภูเขาภายในบรรจุด้วยน้ำแข็งเข้าโจมตีบรรดาชีวิตตามที่พระองค์ทรงประสงค์ และบางส่วนรอดพ้นตามที่พระองค์ทรงประสงค์ เกิดแสงแปลบเปล่งประกายที่แทบมองไม่เห็น” อันนูร 24:43