รู้จักยิวกันหน่อย ตอนที่ 5 จริงหรือที่ว่าคนยิวขี้งก

ในประวัติศาสตร์ คนยิวกระจายจากตะวันออกกลางออกไปทำมาหากินในยุโรปจำนวนมากกระทั่งกลายเป็นชนกลุ่มน้อยที่แทรกอยู่ในสังคมใหญ่ของยุโรป จำนวนไม่น้อยสร้างฐานะจนร่ำรวย ขณะที่ยิวเคร่งศาสนาทำตัวแปลกแยก เป็นผลให้คนยิวโดยรวมกลายเป็นกลุ่มสร้างปัญหา ครั้งใดที่ผู้ปกครองในยุโรปเป็นทรราช คนยิวก็มักถูกตั้งข้อหาว่าสร้างปัญหาให้กับสังคม ยิ่งช่วงการระบาดของกาฬโรคที่คร่าชีวิตคนยุโรปยุคเก่าไปแทบครึ่งทวีปช่วง ค.ศ.1346-1353 ชุมชนยิวซึ่งจำนวนไม่น้อยคือพวกฮาเรดิมถูกตั้งข้อหาว่าเป็นต้นเหตุของโรคร้าย กล่าวหาง่าย ๆ เพียงเท่านี้คนยิวก็ถูกกวาดออกจากสังคม ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเพราะเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์ยิวจึงยอมรับว่าขณะอยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรอิสลามทั้งในตะวันออกกลางและสเปน คนยิวต่างได้รับเกียรติและการดูแลที่ดีเสมอ

สังคมภายนอกมักตั้งคำถามต่อสังคมคนยิวอยู่บ่อย คำถามหนึ่งคือเหตุใดคนยิวจึงขี้เหนียวและหน้าเลือดนัก คนไทยเองเรียกคนงกหรือคนเห็นแก่ตัวว่ายิว ขณะที่คนชาติอื่นมองคนยิวไม่ต่างจากคนไทยสักเท่าไหร่ นักการเมืองที่เป็นศัตรูของยิวมักพูดบริภาษยิวให้สาธารณะชนได้ยินเนือง ๆ ว่ายิวเป็นชนชาติที่งก ตะกละตะกลาม หิวกระหาย ก้าวร้าว ขาดคุณธรรมในทางการค้า สารพัดสารเพ งานเขียนของหลายชาติ มักกล่าวถึงยิวในลักษณะที่เป็นพ่อค้าหน้าเลือด ภาพลักษณ์เช่นนี้ สร้างปัญหาให้คนยิวอย่างมาก

เมื่อศึกษาลงลึกไปในประวัติศาสตร์ มีตัวอย่างเรื่องราวการค้าทาสในอเมริกาที่โหดร้าย โดยกล่าวกันว่าพ่อค้าทาสล้วนเป็นคนยิว คนยิวเป็นคนงก หน้าเลือด ไร้คุณธรรมอย่างนั้นจริงหรือไม่ คนภายนอกก็มองคนยิวในแง่ลบเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งยิวฮาเรดิมที่แต่งตัวแปลกแยกทำตัวโดดเดี่ยว ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยพิธีกรรมด้วยแล้ว คนยิวยิ่งถูกมองในเชิงลบมากเข้าไปใหญ่ ถึงขนาดที่ในอังกฤษเมื่อกลางศตวรรษที่ 19 กีดกันไม่ให้คนยิวเข้าไปมีตำแหน่งแห่งหนอยู่ในรัฐสภาด้วยเหตุผลว่าคนกลุ่มนี้เป็นชนชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านตะกละและขี้งก (An eminently acquisitive race)

เซอร์ฟรานซิส โกลด์สมิท แห่งสภาขุนนางอังกฤษเขียนบันทึกเรื่อง Civil Disabilities of the Jews หรือความพิกลพิการทางแพ่งของคนยิวไว้ใน ค.ศ. 1830 ว่าคนยิวที่ร่ำรวยฉ้อฉลทรัพย์สินของคนอังกฤษที่ยากจนไปเป็นของตนเองอยู่บ่อย มีงานสำรวจทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องความเชื่อทางศาสนากับฐานะทางเศรษฐกิจของผู้นับถือศาสนาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ USA Today ปลาย ค.ศ. 2003 สรุปออกมาว่าคนยิวมีรายได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของคนทุกศาสนาถึงสามเท่า เหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จของยิวในเรื่องนี้คือคำสอนในศาสนาที่ขัดเกลาให้คนยิวเก็บหอมรอมริบ ระมัดระวังการใช้จ่าย และสอนให้รู้จักลงทุน คนยิวเองก็ยอมรับว่าตนเองขี้เหนียว โดยไม่ยอมรับว่าหน้าเลือดและตะกละตะกลาม ใครคิดจะกล่าวหาคนยิวรุนแรงอย่างนั้นต้องระวังจะกลายเป็นพวกแอนตี้ยิว (Antisemitism) ไปได้ ซึ่งส่งผลสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองเอาได้ง่าย ๆ

#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #คนยิว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *