ย้อนมองอดีตเมื่อชนยุโรปเหยียบบ่ายักษ์อาหรับ

รู้ๆกันอยู่ว่าคนยุโรปชาติแรกที่เข้ามาค้าขายกับกรุงศรีอยุธยาใน ค.ศ.1517 (พ.ศ. 2060) รัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 คือ “ปอร์ตุเกส” (Portugal) วิทยาการด้านพาณิชย์นาวีของปอร์ตุเกสเวลานั้นจึงก้าวหน้าที่สุด ก่อนหน้านั้นการเดินทางจากยุโรปมายังเอเชียทางทะเลต้องอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ปลายทวีปอัฟริกา ยังไม่มีชาติใดทำได้ ชนปอร์ตุเกสนี่เองที่ค้นพบทั้งวิธีการและเส้นทาง อันนับเป็นการเปิด “ยุคแห่งการค้นพบ” (Age of Discovery) ตอนต้นศตวรรษที่ 15 ซึ่งเริ่มด้วยการจัดตั้งสถาบันเดินเรือ (Maritime) ผู้ริเริ่มคือเจ้าชายเฮนรีโอรสของกษัตริย์จอห์นที่ 1 (John I) แห่งปอร์ตุเกส (Prince Henry the Navigator ค.ศ.1394-1460) สถาบันทำหน้าที่รวบรวมองค์ความรู้ ออกแบบ จัดสร้างเรือเดินทะเล ศึกษาเส้นทาง จัดทำแผนที่ พัฒนากองเรือและบุคลากรด้านการนาวีขึ้น บุคคลอย่าง บาร์โตโลมิว ดิแอส (Bartolomeu Diaz ค.ศ.1450-1500) ผู้ค้นพบเส้นทางผ่านแหลมกู้ดโฮปใน ค.ศ.1488 วาสโก ดากามา (Vasco da Gama ค.ศ.1460/69-1524) บุคคลแรกที่เดินเรืออ้อมอัฟริกามายังอินเดียใน ค.ศ.1497-99 จอร์จ อัลวาเรซ (Jorge Alvarez ค.ศ. ไม่รู้ปีเกิด-1521) ที่เดินเรืออ้อมอัฟริกาและคาบสมุทรมาลายูมายังแผ่นดินจีนใน ค.ศ.1513 เฟอร์ดินันด์ มาเจลลัน (Ferdinand Magellan ค.ศ.1480-1521) และฮวน เซบาสเตียน เอลคาโน (Juan Sebastian Elcano ค.ศ.1486/87-1526) เดินทางรอบโลกโดยอ้อมทวีปอเมริกาใต้ สำเร็จใน ค.ศ.1519-1522 ทุกคนเป็นชาวปอร์ตุเกสทั้งสิ้นยกเว้นเอลคาโนที่เป็นชาวบาสค์ สเปน บุคคลเหล่านี้มีบทบาทอย่างมากในยุคแห่งการค้นพบ นอกจากปอร์ตุเกส ยังมี “สเปน” (Spain) โดยราชินีอิซาเบลลาแห่งคาสติล สเปน เกื้อหนุน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวอิตาลี สำรวจเส้นทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคไปยังอินเดียอันนำไปสู่การค้นพบทวีปอเมริกา ใน ค.ศ.1492 ความสำเร็จด้านการสำรวจทะเลของทั้งสองชนชาตินำไปสู่การทำข้อตกลงทอร์เดซิลลัส (The Treaty of Tordesillas) ระหว่างกันใน ค.ศ.1494 เพื่อแบ่งโลกกันปกครอง ผลที่ตามมาคือปอร์ตุเกสได้บราซิล, กัว, ติมอร์, มาเก๊า ส่วนสเปนได้อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และฟิลิปปินส์ ช่างน่าทึ่งที่ทั้งปอร์ตุเกสและสเปนช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ต่างเป็นชาติใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นบนแผ่นดินไอบีเรียช่วงปลายสมัยอัล-อันดาลุส อาณาจักรมุสลิมที่ปกครองคาบสมุทรแห่งนั้นมานานเกือบแปดศตวรรษ โดยสร้างความรุ่งเรืองไว้มากมาย สิ่งที่อาณาจักรมุสลิมทิ้งไว้คือองค์ความรู้มหาศาลที่ชนยุโรปนำไปต่อยอด ทั้งวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี การพาณิชย์นาวี เป็นผลให้ยุคแห่งความเรืองรอง (Age of Enlightenment) เข้าสู่ยุโรปเร็วขึ้น คำพังเพยเก่าของกรีกกล่าวว่า “nanos gigantum humeris insidentes” คนแคระยืนบนบ่ายักษ์ ยุโรปจึงต่อยอดความรู้จากโลกมุสลิม นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ เซอร์ไอแซค นิวตัน เคยอ้างอิงเรื่องนี้ไว้ใน ค.ศ.1675 ต่อมาใน ค.ศ.1993 สมเด็จเจ้าฟ้าชายชาร์ลแห่งสหราชอาณาจักรทรงปรารภว่าน่าเสียดายที่คนยุโรปยังคงดื้อรั้นไม่ยอมรับความจริงในเรื่องนี้ เป็นผลให้โลกมุสลิมและโลกตะวันตกต้องขัดแย้งกันมาจนทุกวันนี้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน, #ปอร์ตุเกส

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *