ย้อนมองอดีตเมื่อชนยุโรปเหยียบบ่ายักษ์อาหรับ ตอนที่ 7

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงบรรยายหัวข้อ “โลกอิสลามและโลกตะวันตก” ในพิธีเปิดศูนย์อิสลามศึกษามหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด อังกฤษ เมื่อ ค.ศ.1993 ผมมีโอกาสอ่านพระราชดำรัสสำคัญที่ว่านั้นทั้งหมด อ่านแล้วจึงเห็นว่าพระองค์ทรงบรรยายอย่างผู้รู้ มีหลายเรื่องราวน่าสนใจ ทรงกังวลถึงความไม่เข้าใจตลอดจนการมีอคติที่โลกตะวันตกมีต่ออิสลาม ทรงเน้นย้ำว่าโลกอิสลามและโลกตะวันตกสมควรสร้างความเข้าใจระหว่างกันเพื่อสรรค์สร้างโลกให้พัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ได้อ่านพระราชดำรัสแล้วยอมรับว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ช่างน่าเสียดายที่พระราชดำรัสของพระองค์ซึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ.1993 กระทั่งถึงวันนี้ความไม่เข้าใจระหว่างสองโลกยังคงดำรงอยู่ พระองค์ทรงมีความเห็นว่าเป็นเพราะความไม่รู้ ความคับแค้นของชาวตะวันตกต่อประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงสงครามครูเสด สงครามในอะนาโตเลีย หรือแม้กระทั่งช่วงการครอบครองไอบีเรียแปดศตวรรษของมุสลิม ทำให้โลกตะวันตกเลือกมองมุสลิมอย่างอคติว่าอดีตคือมหาอำนาจทางทหาร ขณะที่ปัจจุบันคือแหล่งบ่มเพาะการก่อการร้าย เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กล่าวถึงพัฒนาการด้านวิชาการสาขาต่างๆจำนวนมากมายที่โลกอิสลามพัฒนาขึ้นทั้งในตะวันออกกลางและในไอบีเรียที่กลายเป็นมรดกสร้างความรุ่งเรืองให้กับยุโรปจนทุกวันนี้ช่างน่าแปลกที่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันเป็นรากฐานสร้างความรุ่งเรืองและเกรียงไกรให้กับโลกตะวันตกจนกระทั่งปัจจุบัน เป็นบ่ายักษ์ที่โลกอิสลามยอมให้ยุโรปได้เหยียบต่อยอดเพื่อก้าวขึ้นสู่ที่สูง กระทั่งกลายเป็นผู้ปกครองโลกเช่นในปัจจุบันกลับแทบไม่มีการกล่าวถึงให้เป็นแหล่งอ้างอิงในโลกตะวันตกเลย ยุโรปเลือกที่จะลืมคุณูปการเหล่านั้นมากกว่าที่จะจดจำ ตำราประวัติศาสตร์ในประเทศไทยที่ลอกตามตำราตะวันตกจึงทอดทิ้งคุณค่าของโลกอิสลามตามไปด้วย เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงกล่าวในพระราชดำรัสว่าเป็นเพราะไม่รู้ เป็นเพราะจมปลักอยู่กับความพ่ายแพ้ในอดีตกาลนานมาแล้ว ยุโรปจึงเลือกที่จะฝังตัวอยู่กับความคับแค้นที่ไม่มีตัวตน ทิ้งโอกาสที่จะสรรค์สร้างสิ่งดีๆร่วมกันกับโลกอิสลามเพื่อเป็นมรดกตกทอดให้กับอนุชนรุ่นหลังความไม่รู้คือปัจจัยที่สร้างโลกแห่งอคติให้เกิดขึ้น โลกมุสลิมเองบ่อยครั้งยังทอดทิ้งการบันทึกเรื่องราวทางอารยธรรมที่อิสลามเคยสรรค์สร้างไว้ เหตุนี้ผมจึงเลือกเขียนเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา โดยเขียนในรูปประวัติศาสตร์เฉพาะส่วนของไอบีเรียและอัฟริกาเหนือเมื่อมุสลิมจากสองพื้นที่เข้าไปสร้างอาณาจักรที่รุ่งเรืองในไอบีเรียไว้ ทิ้งเป็นมรดกให้ชนปอร์ตุเกสและสเปนได้ศึกษา นำมาต่อยอดกระทั่งสร้างความเป็นจักรวรรดิได้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้น ร่องรอยความเป็นจักรวรรดิของปอร์ตุเกส ชาวสยามในยุคกรุงศรีอยุธยาเคยสัมผัสมาแล้ว ทว่าอาจไม่ทราบถึงความเป็นมาว่าเหตุใดชนปอร์ตุเกสที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยติดต่อค้าขายกับสยามมาก่อนเลย จึงก้าวหน้าได้รวดเร็วปานนั้น เป็นมาเป็นไปเช่นไร จึงสมควรเรียนรู้ไว้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปนปอร์ตุเกส

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *