มนุษย์เคยอยู่ร่วมยุคกับไดโนเสาร์ หรือว่าคือเราที่มีคนค่อนว่าไดโนเสาร์เต่าล้านปี

งานวิจัยใหม่อ้าง บรรพบุรุษมนุษย์เคยอยู่ร่วมกันกับไดโนเสาร์ ท่ามกลางการถกเถียงที่ยาวนานของนักบรรพชีวินวิทยา.บทความในวารสาร Current Biology ได้ระบุว่าในยุคที่ไดโนเสาร์ยังคงรุ่งโรจน์เมื่อประมาณ 70 ถึง 80 ล้านปีก่อน บรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรก เช่น สุนัข แมว ม้า ค้างคาว หนู และรวมถึงมนุษย์ด้วย ได้กำเนิดขึ้นมาใช้ชีวิตเคียงข้างกับไดโนเสาร์แล้ว.เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานในหมู่นักวิชาการ เนื่องจากมีกลุ่มที่คิดว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกเกิดขึ้นหลังจากที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว กับกลุ่มที่เชื่อว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกิดมาในตอนที่ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่ เพราะหลักฐานที่ไม่ชัดเจน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ข้อสรุป.ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญจะศึกษาสิ่งมีชีวิตในอดีตผ่าน 2 แนวทางหลักคือ จากซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล และจากพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีรกนั้น หลักฐานทั้งสองต่างก็มีช่องว่างเต็มไปหมด โดยนักวิทยาศาสตร์มีฟอสซิลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอดีตเมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อนหลังจากสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของไดโนเสาร์อยู่แค่ 2-3 สายพันธุ์ นั่นหมายความว่าบรรพบุรุษของเราเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์นี้ใช่หรือไม่? .แต่การศึกษาดีเอ็นกลับบอกอีกอย่างว่า พันธุกรรมของสัตว์ที่มีรกเกิดขึ้นเมื่อราว 80 ล้านปีก่อน ซึ่งก่อนหน้าฟอสซิลถึง 20 ล้านปีและไดโนเสาร์ยังคงครองโลก แล้วแนวคิดใดถูกต้อง? .ทีมวิจัยจึงใช้วิธีใหม่ที่เรียกว่า ‘แบบจำลอง Bayesian Brownian Bridge’ (BBB) ซึ่งเป็นสูตรการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้ในการศึกษาการกระจายของซากดึกดำบรรพ์ และประเมินข้อมูลทางสถิติ ระหว่างฟอสซิลกับพันธุกรรมในการวิวัฒนาการ.“เรารวบรวมฟอสซิลของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกหลายพันธุ์ (ทั้งปัจจุบันและอดีต) เข้าด้วยกัน และสามารถดูรูปแบบการกำเนิดและการสูญพันธุ์ของกลุ่มต่าง ๆ จากข้อมูลนี้” เอมิลี่ คาร์ไลอย์ (Emily Carlisle) หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว “เราสามารถประเมินได้ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกวิวัฒนาการขึ้นเมื่อใด” .พวกเขาระบุว่า แบบจำลอง BBB ได้ให้ผลลัพธ์เรื่องการมีอยู่ของบรรพบุรุษของเราเมื่อประมาณ 70-80 ล้านปีก่อน กล่าวอีกอย่างคือบรรพบุรุษของเราเคยมีชีวิตอยู่ร่วมกับไดโนเสาร์อยู่นานถึง 20 ล้านปี ก่อนที่ไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ทราบว่าสิ่งมีชีวิตนั้นมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แต่คาดว่ามีขนาดค่อนข้างเล็ก.“น่าเสียดายที่เราไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในรกของเราจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในตอนนั้น” คาร์ไลอย์ กล่าว “ซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกในยุคแรกสุดหลายชนิดเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าบรรพบุรษของเรา หลายตัวยังมีขนาดเล็ก” .เมื่อไดโนเสาร์หายไป สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็วิวัฒนาการขึ้นมา จากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วโลกจนมาเป็นเราในทุกวันนี้ .ปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกเป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มที่มีมากและแพร่หลายมากที่สุด ขณะที่อีก 2 ประเภทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีจำนวนน้อยลงมาอย่างเห็นได้ชัดนั่นคือ กลุ่มโมโนทรีมาทา (Monotremata) หรือตัวตุ่นปากเป็ดที่ออกลูกเป็นไข่ และกลุ่มสัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องอย่างจิงโจ้และโคอาล่า.สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *