เมื่อกล่าวถึงไขมันกลุ่มเอ็มซีทีที่มีมากในน้ำมันมะพร้าว ไขมันกลุ่มนี้มีประโยชน์มาก แต่ปัญหาใช่ว่าจะไม่มี ปัญหาคือสลายตัวง่าย การสกัดน้ำมันมะพร้าวด้วยวิธีเก่าซึ่งมีการใช้ความร้อนร่วมด้วยทำให้ประโยชน์ทางด้านนี้ของน้ำมันมะพร้าวสูญเสียไป จึงจำเป็นต้องสกัดโดยไม่ใช้ความร้อนค่อยๆสกัดน้ำมันมะพร้าวออกมาเพื่อทำให้เอ็มซีทียังคงสภาพที่ดีอยู่ กระบวนการสกัดน้ำมันแบบนี้ทำให้น้ำมันมะพร้าวที่ได้มาถูกตั้งชื่อว่า “น้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้น” (Virgin coconut oil)
น้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นหรือพรหมจรรย์ที่ว่านี้กล่าวอ้างกันว่าให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมาก อย่างเช่นช่วยการทำงานของฮอร์โมนธัยรอยด์ เร่งการสร้างพลังงาน ทำลายเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ดูแลความดันโลหิต รักษาระดับคอเลสเตอรอล ดูแลระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ช่วยด้านสุขภาพเส้นผมและผิวพรรณ ลดความเครียด เพิ่มภูมิต้านทาน แต่ที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นการช่วยลดน้ำหนัก ปัญหาคือการกล่าวอ้างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในสัตว์ทดลองไม่ใช่ในมนุษย์ เป็นต้นว่าช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณเอว
มีรายงานการศึกษาวิจัยในมนุษย์เช่นกันโดยใน ค.ศ. 2009 งานวิจัยในวารสาร Lipids ศึกษาในสตรี 40 คนที่มีไขมันบริเวณพุงมากไปหน่อย หญิงเหล่านี้ได้รับคำแนะนำให้ออกกำลังกายและลดอาหาร พร้อมกันนั้นให้เสริมน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นเทียบกับน้ำมันถั่วเหลือง ผลการศึกษาพบว่าทั้งสองกลุ่มลดน้ำหนักได้ดีด้วยกันทั้งคู่ โดยกลุ่มที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นมีขนาดเอวลดลงเนื่องจากไขมันบริเวณพุงหายไปมากกว่า จากงานวิจัยชิ้นนี้หากจะให้สรุปว่าน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นช่วยลดน้ำหนักก็ทำได้ไม่ถนัดนักเนื่องจากมีการลดอาหารและออกกำลังกายไปพร้อมๆกัน
ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้น อย่างเช่นชิ้นหนึ่งเป็นการทดลองในหนูโดยเสริมน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นควบคู่ไปกับสารซีแอลเอหรือ Conjugated linoleic acid ปรากฏว่าช่วยลดน้ำหนักลงได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้เช่นกันว่าน้ำหนักที่ลดลงเป็นผลจากสารตัวไหนกันแน่ระหว่างน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นกับซีแอลเอ ข้อดีของน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นอีกอย่างคือรสชาติค่อนข้างดีรวมทั้งมีกลิ่นหอมของสารไฟโตนิวเทรียนท์หลายตัว ทำให้ชวนกินมากขึ้น หากคิดจะใช้น้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นเพื่อลดน้ำหนักไม่น่าจะมีใครห้าม โดยขอให้เลือกการลดอาหารให้พลังงานและออกกำลังกายร่วมไปด้วย นอกจากนี้คงต้องระวังพลังงานจากน้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นสักหน่อยเนื่องจากนักโภชนาการแนะนำให้ร่างกายได้พลังงานจากกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกินร้อยละ 10 หากร่างกายต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี น้ำมันมะพร้าวเวอร์จิ้นไม่ควรเกิน 5 ช้อนชาต่อวัน สำหรับคำแนะนำที่ค่อนข้างหนาหูว่าให้บริโภคน้ำมันมะพร้าววันละ 3 ช้อนโต๊ะควบคู่กับอาหารแต่ละมื้อทุกวัน ทำเช่นนั้นร่างกายอาจได้พลังงานมากเกินไป แทนที่จะลดน้ำหนักกลับเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีกจะท้อใจกันเสียเปล่าๆ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #น้ำมันมะพร้าว
