ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักชนิดไหนได้ผลบ้าง ตอนที่ 14 น้ำมันมะพร้าว

ตอนนี้เราลองมาแตะเรื่อง “น้ำมันมะพร้าว” กันบ้าง เพราะมีข้อมูลเรื่องการใช้น้ำมันมะพร้าวลดน้ำหนักกับเขาด้วย โดยดูเหมือนจะเป็นน้องใหม่มาแรงที่ใครต่อใครพากันถามถึง ผมในฐานะที่ทำงานวิจัยทางด้านไขมันและน้ำมันมานาน ขณะเดียวกันก็จับงานด้านวิทยาลิพิดซึ่งเป็นเรื่องทางด้านโภชนาการของน้ำมันพร้อมกันไปด้วย จึงพอจะได้ข้อมูลทั้งด้านอาหารและโภชนาการของน้ำมันมะพร้าวค่อนข้างครบ ลองมาดูกันดีกว่าว่าน้ำมันมะพร้าวหากนำมาใช้ลดน้ำหนักตัว จะมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

ก่อนอื่นอยากให้รู้เรื่องความโชคร้ายของน้ำมันมะพร้าวกันสักหน่อย เมื่อครั้งเกิดศึกน้ำมันพืชขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อกว่าสามสิบปีมาแล้ว คู่กรณีหลักคือน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันปาล์ม โดยน้ำมันถั่วเหลืองเป็นผลผลิตอเมริกัน ขณะที่น้ำมันปาล์มเป็นผลผลิตจากเขตร้อนซึ่งก็คือแถบเอเชียและอัฟริกา ในเวลานั้น ทั้งคู่กลายเป็นคู่แข่งทางการค้าในตลาดอเมริกาเหนือ นักวิชาการอเมริกันดาหน้ากันออกมาโจมตีน้ำมันปาล์มว่าเป็นผู้ร้ายสร้างปัญหาต่อสุขภาพเพราะมีกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณมากขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองคือพระเอกเนื่องจากมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมากกว่า ทั้งยังมีกรดไขมันโอเมก้าสามอีกต่างหาก

สถานการณ์ในวันนั้นน้ำมันปาล์มเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด นอกจากปาล์มแล้วน้ำมันมะพร้าวในฐานะที่เป็นน้ำมันพืชเขตร้อนซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัวมากยิ่งกว่าปาล์มกลายเป็นจำเลยกับเขาด้วย ในขณะที่น้ำมันปาล์มกับน้ำมันมะพร้าวกำลังเพลี่ยงพล้ำอยู่นั้น ประเทศมาเลเซียในฐานะที่เป็นผู้ผลิตปาล์มรายใหญ่กลับลุกขึ้นสู้เชิงวิชาการชนิดหนามยอกเอาหนามบ่ง โดยใช้นักวิชาการตะวันตกนั่นแหละนำข้อมูลวิชาการอีกด้านหนึ่งออกมาห้ำหั่นกับข้อมูลจากนักวิชาการอเมริกัน

ผลสุดท้ายดูเหมือนน้ำมันถั่วเหลืองต้องยอมหย่าศึก สรุปในเชิงวิชาการเป็นว่าต่างฝ่ายต่างก็ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ น่าสงสารก็แต่น้ำมันมะพร้าวที่ขาดผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ฟิลิปปินส์ในฐานะประเทศที่ปลูกมะพร้าวรายใหญ่ไม่ได้ร่ำรวยอู้ฟู่เหมือนมาเลเซีย ในที่สุดก็ต้านทานแรงต่อต้านจากนักวิชาการและผู้บริโภคไม่ได้ น้ำมันมะพร้าวจึงล้มหายตายจากไปนับแต่นั้น กว่าจะฟื้นตัวกลายเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ได้ก็เกินยี่สิบปีแล้ว ไม่รู้ว่าสายเกินไปหรือเปล่า

ความโดดเด่นของน้ำมันมะพร้าวที่พบกันในเวลาต่อมาคือในบรรดากรดไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่มากที่สุดในบรรดาน้ำมันพืชด้วยกันนั่นคือกว่าร้อยละ 80 ปรากฏว่ากรดไขมันอิ่มตัวเหล่านี้จำนวนหนึ่งคือกรดไขมันขนาดกลางอยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ขนาดกลางที่เรียกกันในทางวิชาการว่า “เอ็มซีที” (MCT, Medium chain triglycerides) ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างจากไตรกลีเซอไรด์ชนิดอื่นนั่นคือถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายตลอดจนถูกย่อยสลายสร้างเป็นพลังงานได้รวดเร็วทำให้ไม่สะสม นับวันนักวิจัยก็ยิ่งพบประโยชน์ของเอ็มซีทีในน้ำมันมะพร้าวมากขึ้น น้ำมันมะพร้าวจากผู้ร้ายเริ่มกลายเป็นพระเอกไปแล้ว ชนิดที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ #drwinaidahlan#ดรวินัยดะห์ลัน#น้ำมันมะพร้าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *