ในอิสลาม อัลกุรอานระบุชัดเจนว่าเลือดนั้นหะรอมต่อการบริโภค (อัลบะเกาะเราะฮฺ 2:173, อัลมาอิดะห์ 5:3) ยกเว้นการบริโภคอวัยวะบางชนิดของสัตว์ฮาลาล เช่น ตับและม้ามที่แม้คล้ายก้อนเลือด อิสลามอนุญาตให้บริโภคได้ เนื่องจากไม่จัดอยู่ในประเภทเลือดที่ผิดบัญญัติอิสลาม ส่วนกรณีการบริโภคที่จำเป็น เป็นต้นว่าเลือดเป็นส่วนหนึ่งของอาหารแยกออกไม่ได้ เช่น กรณี ปลาหรือกุ้งหรือสัตว์น้ำอื่น ๆ หรือตั๊กแตน นี่ก็อนุมัติ
อีกกรณีหนึ่งคือการถ่ายเลือด นักวิชาการสายฟิกฮฺตัดสินว่าการถ่ายเลือดถือเป็นสิ่งที่ได้รับอนุญาตในอิสลาม เนื่องจากเป็นความจำเป็นทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตหรือรักษาชีวิต การรับเลือดจากผู้อื่นจึงเป็นสิ่งอนุมัติ นั่นว่าด้วยกรณีการถ่ายเลือดที่มีเจตนารักษาชีวิต ตัวอย่างเช่นกรณีการถ่ายเลือดเพื่อรักษาภาวะโลหิตจาง เป็นต้นว่าขาดยีนสร้างโปรตีนเอริโทรโพอิเอติน การถ่ายเลือดลักษณะนี้เป็นการรักษาโรคจึงไม่เป็นปัญหาในอิสลาม อย่างไรก็ตาม วิทยาการก้าวหน้าไปรวดเร็ว จำเป็นต้องพิจารณาเจตนาของการถ่ายเลือดด้วยแม้แต่การถ่ายเลือดตนเองให้กับตนเองก็ตาม เนื่องจากเกิดกรณีการถ่ายเลือดเพื่อโด๊ปหรือเพิ่มพละกำลังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกีฬา เรื่องหลังนี้แม้แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ยังมีมติห้ามไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1986 การถ่ายเลือดที่มีเจตนาโด๊ปเพื่อเพิ่มพลังลักษณะนี้ อาจนับเป็นข้อห้ามในอิสลาม จึงต้องระวังกันไว้
ยังมีกรณีการดื่มหรือบริโภคเลือดมนุษย์ที่หลั่งออกจากร่างกายที่นับว่าหะรอม มีกรณีน่าสนใจคือการดื่มเลือดของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เรื่องนี้มีบันทึกในหะดิษของท่านนบีโดยมีศอฮาบะฮฺ 4 ท่านแอบดื่มเลือดท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลฯ สามท่านแอบดื่มเลือดของท่านนบีที่ได้จากการกรอกเลือด (cupping) หรือ “ฮิญามะฮฺ” (حجامة Hijama) ท่านแรกคืออับดุลเลาะฮฺ อิบนฺ อัสสุเบร เมื่อครั้งเป็นเด็กแอบนำเลือดท่านนบีจากการกรอกไปดื่ม ท่านที่สองคือซาลิม อะบู ฮินดฺ เป็นผู้กรอกเลือดให้ท่านนบี แทนที่จะนำไปฝังกลับแอบนำไปดื่ม ท่านที่สามคือสะฟีนะฮฺ ซึ่งเป็นทาสที่ท่านนบีปลดปล่อย นำเลือดท่านนบีที่ท่านกรอกด้วยตนเองแอบนำไปดื่ม ทั้งสามครั้งนี้ท่านนบีสั่งห้ามไว้ชัดเจน
ท่านสุดท้ายดื่มเลือดจากบาดแผลของท่านนบี ศอฮาบะฮฺท่านนี้คือมาลิก อิบนฺ สินาน ในสงครามอูฮุด ท่านนบีได้บาดแผลฉกรรจ์ระหว่างทำศึก ท่านมาลิกใช้ปากดูดเลือดจากแผลของท่านนบีและกลืนลงท้องแม้ท่านนบีสั่งให้บ้วนทิ้งทว่าห้ามไม่ทัน ท่านมาลิกท่านนี้เสียชีวิตสะหีดในสงครามครั้งนั้น นี่คือการดื่มเลือดท่านนบีทั้งสี่ครั้งที่มีการบันทึกเป็นหะดิษไว้โดยท่านนบีออกปากห้ามทุกครั้ง การบริโภคเลือดจึงต้องห้ามในอิสลามแม้เป็นเลือดของท่านนบีเองก็เถอะ
#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #เลือดหะรอม, #นบีมุฮัมมัด, #หะดิษ, #ฮาลาลหะรอม