นโปเลียนกับสตีเฟน ฮอว์กิง

นโปเลียน โบนาปาร์ต (ค.ศ.1769-1821) จักรพรรดิฝรั่งเศส อัจฉริยะด้านการทหาร กับ สตีเฟน ฮอว์กิง (ค.ศ.1942-2018) นักวิทยาศาสตร์อังกฤษ อัจฉริยะด้านฟิสิกส์ สองคนนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกันได้ ทว่าช่วงที่ผมเดินทางไปประเทศโอมาน ต้นเดือนพฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา ขาไปผมใช้เวลาบนเครื่องบินอ่านหนังสือเรื่องประวัติย่อของกาลเวลาเขียนโดยสตีเฟน ฮอว์กิง จนจบ หนังสือซื้อมาหลายเดือนแล้วแต่หาเวลาอ่านไม่ได้เลย เป็นหนังสืออ่านเข้าใจยากแต่สนุก อ่านจบแล้วก็ชอบ วันหลังจะเล่าให้ฟัง

ช่วงบินกลับ ผมดูภาพยนตร์เรื่องนโปเลียนบนเครื่อง แสดงนำโดยโจอาควิน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) กำกับโดยเซอร์ริดเลย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) นโปเลียนเป็นบุคคลน่าสนใจ ชีวิตมีประเด็นขัดแย้งอยู่มาก เป็นวีรบุรุษสงครามที่เปลี่ยนตนเองจากทหารธรรมดาเป็นจักรพรรดินำฝรั่งเศสเข้าสู่ระบอบที่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่ใช่ เผด็จการก็ไม่เชิง ทว่านักประวัติศาสตร์บางกลุ่มกลับยกย่องว่าคือผู้นำประชาธิปไตยที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อใช้ในการปกครองบ้านเมือง บุคลิกภาพขัดแย้งลักษณะนี้น่าสนใจ จึงอยากนำมาเล่าให้พวกเราฟังกันหน่อย

นักประวัติศาสตร์ยุโรปมองว่านโปเลียนคือจักรพรรดิคนสุดท้ายที่สามารถยึดครองโลก โดยรบให้กับฝรั่งเศสทั้งในฐานะทหารและเมื่อเป็นจักรพรรดิรวม 60 ครั้ง ชนะเป็นส่วนใหญ่ แพ้ 7 ครั้ง ทว่าครั้งที่แพ้มีผลต่อประวัติศาสตร์โลกจนทุกวันนี้ พ่ายแพ้ครั้งใหญ่คือสงครามกับรัสเซีย ค.ศ.1812 ครั้งนั้นนโปเลียนแพ้ศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะได้นั่นคือฤดูหนาวอันหฤโหดของรัสเซีย สูญเสียทหารไปหลายแสนนาย แพ้ใหญ่อีกครั้งคือสงครามวอเตอร์ลู ค.ศ.1815 รบกันวันเดียวก็พ่ายแพ้แก่ศัตรูอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นหนามยอกอกนโปเลียนมาตลอดนั่นคืออังกฤษ

คนมักมองเห็นอัจฉริยภาพของนโปเลียนด้านการทหาร ทว่าจักรพรรดิผู้นี้โดดเด่นด้านการบริหารกิจการบ้านเมืองไม่น้อย ช่วงที่ทำงานอยู่ในยุโรป เมืองบรัสเซลส์ที่ผมอาศัยอยู่หลายปี โครงสร้างด้านการคมนาคมตลอดจนผังเมืองที่มีส่วนทำให้บรัสเซลส์กลายเป็นเมืองหลวงของยุโรปในวันนี้ ว่ากันว่านโปเลียนเป็นผู้วางแบบแปลนไว้ ป่าเล็กป่าใหญ่ทางทิศใต้ของบรัสเซลส์ล้วนกำหนดโดยนโปเลียน ผังเมืองของปารีสก็ไม่ต่างกัน อีกทั้งนโปเลียนยังวางรากฐานการศึกษาและด้านการปกครองแบบประชาธิปไตยไว้

ยุคสมัยของนโปเลียนทำให้ความหมายของคำว่า “การปฏิวัติ” ในภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสที่ใช้คำว่า revolution อันหมายถึงการหมุนเวียนกลับไปมากลายเป็นจริงตามนั้น การก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิของนโปเลียนใช้มติของประชาชน นำระบอบกษัตริย์ที่เพิ่งถูกล้มเลิกไปไม่นาน กลับคืนมาให้กับตนเองอีกครั้ง สมกับคำว่า revolution จริง ๆ นี่คือความฉลาดล้ำของนโปเลียนในการเล่นกับระบอบที่เรียกว่าประชาธิปไตย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #นโปเลียนกับสตีเฟนฮอว์กิง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *