มีคำถามมานานว่าทารกเมื่อครั้งอยู่ในครรภ์สามารถรับกลิ่นและรสของอาหารที่มารดาบริโภคบ้างไหม เมื่อสงสัยก็ต้องหาคำตอบ งานวิจัยเรื่องนี้ทำขึ้นที่ห้องปฏิบัติการวิจัยทารกในครรภ์และทารกแรกเกิดของมหาวิทยาลัยเดอแรม (Durham) ประเทศอังกฤษ โดยการสแกนอัลตราซาวนด์ 4 มิติของสตรีตั้งครรภ์ใกล้คลอด 100 คน เพื่อดูว่าทารกในครรภ์ตอบสนองอย่างไรหลังจากที่ได้สัมผัสกับรสชาติจากอาหารที่มารดารับประทาน งานนี้เป็นการบันทึกหลักฐานโดยตรงครั้งแรกโดยสังเกตจากการแสดงออกทางสีหน้าของทารกกับอาหารที่มารดาบริโภค กลิ่นรสที่ทำการศึกษาคือผักสองชนิดได้แก่ เคล (kale) หรือคะน้าใบหยิกที่รสออกขมและแครอท (carrot) ที่รสออกหวาน ทารกในครรภ์ที่สัมผัสกับแครอทที่มารดาบริโภคโดยมีปฏิกิริยาตอบสนองในลักษณะใบหน้าหัวเราะ (laughter-face) ในขณะที่ทารกที่สัมผัสกับผักเคลแสดงปฏิกิริยาในลักษณะใบหน้าร้องไห้ (cry-face) มากกว่า การค้นพบครั้งนี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจพัฒนาการด้านการรับกลิ่นและรสของมนุษย์มากขึ้น แสดงว่าสิ่งที่มารดาบริโภคขณะตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อความชอบหรือไม่ชอบของทารกหลังคลอด และอาจส่งผลต่อการสร้างนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพของทารกที่คลอดออกมา การศึกษาเรื่องการรับกลิ่นและรสของทารกนั้นมักทำเมื่อทารกคลอดออกมาแล้ว ทว่างานวิจัยครั้งนี้แสดงผลตั้งแต่ก่อนคลอดโดยได้ข้อสรุปว่าทารกสามารถลิ้มรสและดมกลิ่นตั้งแต่อยู่ในครรภ์ การแสดงออกทางใบหน้าของทารกในครรภ์ถูกนำเสนอให้มารดาได้เห็น เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทารกและมารดาให้มีมากขึ้น งานศึกษาขั้นต่อไปอาจเกี่ยวข้องกับการปรับพฤติกรรมการบริโภคของทารกหลังคลอด ทีมวิจัยวางแผนไว้อย่างนั้น งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Science ฉบับเดือนกันยายน ค.ศ.2022 ใครสนใจลองหาอ่านดู #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #การรับกลิ่นรสของทารกในครรภ์