มุสลิมถือศีลอดอาหารทุกเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินอาหรับ ปีนี้คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 13 เมษายน โดยสำนักจุฬาราชมนตรีนัดหมายการดูจันทร์เสี้ยวขึ้น 1 ค่ำไว้ในวันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 คำว่ารอมฎอนในภาษาอาหรับแปลว่า “ร้อนจัด” ในอดีตเดือนรอมฎอนตรงกับสิงหาคมซึ่งในทะเลทรายอาระเบียคือกลางฤดูร้อนซึ่งร้อนจัด แต่เวลานี้ รอมฎอนเลื่อนเร็วขึ้นทุกปี จึงไม่ร้อนจัดอีกต่อไปปฏิทินอาหรับไม่ต่างจากปฏิทินจันทรคติของไทยหรือจีน หนึ่งปีมี 354 วัน น้อยกว่าปฏิทินสุริยคติซึ่งมี 365 วันอยู่ 11 วันต่อปีหรือ 33 วันต่อสามปี ในอดีตทุกสามปี ปฏิทินอาหรับจึงเหมือนวัฒนธรรมอื่นคือเพิ่มเดือนขึ้นหนึ่งเดือนเพื่อทำให้ปฏิทินจันทรคติใกล้เคียงกับสุริยคติ การเพิ่มเดือนเรียกว่า “อัลนะซีอฺ” ในภาษาอาหรับ ทว่าในอิสลาม มีคำสั่งปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอานบทที่ 9 อัตเตาบะฮฺ วรรคที่ 37 ให้งดอัลนะซีอฺ ดังนั้น นับจาก ค.ศ.632 เป็นต้นมา รอมฎอนเลื่อนเร็วขึ้นปีละ 11-12 วันจึงไม่ร้อนจัดอีกต่อไปรอมฎอนมีเรื่องการถือศีลอดเป็นหลักโดยงดการกิน การดื่ม การเสพกาม ตั้งแต่แสงเงินแสงทองขึ้นก่อนเช้าตรู่กระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเวลาพลบค่ำตลอดเดือน นอกจากนี้ยังเพิ่มกิจกรรมทางกายด้วยโดยการละหมาดเข้าไปด้วย เดือนปกติมุสลิมละหมาด 17 รอกะอัต (หน่วยหรือรอบท่วงท่าในการละหมาด) อาจเพิ่ม 12 หรือ 23 รอกะอัตต่อวันเป็น 29-40 รอกะอัต โดยเดือนรอมฎอนเพิ่มละหมาดยามค่ำคืนเข้าไปอีก 11 หรือ 23 รอกะอัต กลายเป็น 40-63 รอกะอัต ในรอมฎอนนอกจากลดการรับพลังงานแล้วยังเพิ่มการใช้พลังงานอีกโดยเพิ่มกิจกรรมทางกายไปด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการบริจาคทานซะกาตและทานอื่นเพิ่มเติมอีกต่างหากการถือศีลอดมิได้มีเฉพาะในอิสลาม โดย “การถือศีลอด” หมายถึงการอดกลั้นจากสิ่งต่างๆด้วยแรงศรัทธา วิธีการถือศีลอดจึงแตกต่างกันไปในแต่ละศรัทธาและความเชื่อ ถือศีลอดในมังสะวิรัติคืองดบริโภคเนื้อสัตว์ ถือศีลอดในคริสต์ศาสนาบางนิกายคืองดเนื้อสัตว์ นม ไข่ แม้กระทั่งปลาในบางวัน บางครั้งอาจหมายถึงอดการกินยกเว้นการดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้ โดยอดทั้งวันทั้งคืนต่อเนื่องกันตั้งแต่ 3 วันถึง 40 วัน ในคริสต์ศาสนานิกายกรีกออร์โธดอก มีการถือศีลอดโดยงดบริโภคเนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือรวมถึงปลา 180-200 วันต่อปี โดยถือทุกวันพุธและศุกร์ตลอดปี บางคนงดน้ำมันมะกอก และปลาด้วย นอกจากนี้ยังมีการถือ 40 วันก่อนคริสตมาส 48 วันก่อนอีสเตอร์หรือ Lent day 15 วันในเดือนสิงหาคม (The Assumption)ในศาสนายูดายมีการถือศีลอด 3 วัน 10 วัน 40 วัน พุทธหรือฮินดูก็มีเช่นกัน ต่างกันที่วิธีการ และจำนวนวันเท่านั้น อีกทั้งโลกยุคใหม่ยังมีการถือศีลอดทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเข้าไปอีก อย่างเช่น ไอเอฟ (Intermittent fasting) งดอาหาร 16 ชั่วโมงต่อวันจะเป็นช่วงไหนก็ได้ หรือการถือศีลอดแบบ 5 ต่อ 2 คืองด 2 วัน ไม่งด 5 วันต่อสัปดาห์ สิ่งที่ได้จากการถือศีลอดคือจิตใจที่เข้มแข็ง ทั้งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพกายด้วย ยืนยันกันเช่นนั้นมานาน ใครอยากถือศีลอด ในทางการแพทย์จึงแนะนำให้ทำ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #ถือศีลอด, #รอมฎอน