ซาราเจโวและบอสเนียที่ได้เห็น

ซาราเจโวเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มีประชากรประมาณ 3.4 แสนคน 35% เป็นมุสลิมส่วนใหญ่เป็นสุนหนี่ 29% เป็นแคธอลิก ส่วนที่เหลือปนกันระหว่างออร์ธอดอก, โปรเตสแตนท์, ยิว ฮินดูก็มีบ้าง ทั้งประเทศมีประชากร 3.3 ล้านคนโดยเป็นมุสลิมประมาณ 1.9 ล้านคน หรือ 51% ส่วนที่เหลือเป็นออร์ธอดอก 31% นอกนั้นเป็นแคธอลิก โปรเตสแตนท์ ประเทศนี้จึงเป็นพหุวัฒนธรรมทางด้านศาสนา เมื่อไปดูในกรุงซาราเจโวยังเป็นพหุวัฒนธรรมทางด้านเชื้อชาติอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เป็นบอสเนีย นอกนั้นยังมีเซิร์บ, โครแอช, ยิว, เฮอร์เซก ความมีหลายชนชาตินี้เอง เมื่อครั้งเกิดการแตกเป็นประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ออกจากประเทศยูโกสลาเวียใน ค.ศ.1995 ก่อนหน้านั้นนับแต่ ค.ศ.1992 เมืองนี้ถูกกองกำลังชาวเซิร์บจากรัฐเซอร์เบียผสมกับเซิร์บในเมืองล้อมไว้เรียกว่า Siege of Sarajevo นานถึง 44 เดือน เป็นการทำสงครามล้อมเมืองยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ประชาชนเสียชีวิตประมาณ 10,000 คนเป็นเด็ก 1,600 คน สงครามบอสเนียมีมัสยิดถูกทำลายไป 600 หลัง คนตายไปแสนคน 40% เป็นพลเรือน กว่าจะเป็นอิสระได้จึงสูญเสียอย่างหนัก อิสลามในบอสเนียฟื้นตัวได้หลังสงครามบอสเนีย ก่อนหน้านั้นตกอยู่ภายใต้ระบบคอมมิวนิสต์ของยูโกสลาเวีย เมื่อโซเวียตล่มสลาลใน ค.ศ.1991 ยูโกสลาเวียก็ล่มตามไปด้วย แต่ไม่สงบอย่างโซเวียตเนื่องจากชนเซิร์บจากเซอร์เบียไม่ยอม เกิดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันขนานใหญ่ มุสลิมบ้านแตกสาแหรกขาด เฉพาะที่โดนสังหารไปก็เกือบหมื่นคน วันนี้ในซาราเจโวร่องรอยความขัดแย้งยังอยู่ ในเมืองประชากรเป็นบอสเนีย ขณะที่รอบๆเมืองหลายพื้นที่เป็นทั้งชาวโครแอชและเซิร์บ ต่างคนต่างอยู่ แยกกันค่อนข้างชัด ไม่ทำสงครามกันแล้วแต่สถานการณ์ก็ยังไม่สงบสักเท่าไหร่ มีการกระทบกระทั่งกันบ้างไม่มากนักหลังจากแตกออกจากยูโกสลาเวีย มุสลิมในบอสเนียหาอัตลักษณ์ของตนเองไม่เจอพักใหญ่ เป็นมุสลิมไม่กินหมู แต่ดื่มเบียร์ ดื่มไวน์ พักหลังๆผู้คนเริ่มเข้าหาศาสนามากขึ้น โรงเรียนศาสนาอิสลามมีมากขึ้น คนเข้ามัสยิดมากขึ้น พบเห็นสตรีคลุมหิญาบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท ไม่เฉพาะมุสลิม ชาวคริสต์เองก็เริ่มเข้าโบสถ์มากขึ้นหลังจากระบอบคอมมิวนิสต์พยายามทำลายศาสนาอยู่เกือบร้อยปี Azra Selimonic สาวบอสเนียอายุ 23 ปี เพื่อน ดร.อาณัฐ เด่นยิ่งโยชน์ เล่าให้ฟังว่าเธอเกิดมาสงครามกลางเมืองจบไปแล้ว ครอบครัวของเธอเริ่มเรียนศาสนาอิสลาม คนเข้าหาศาสนากันมากขึ้น แต่ที่ออกจากศาสนาตามคนยุโรปก็มีไม่น้อย ดูเหมือนมุสลิมจะเป็นกลุ่มที่เข้าหาศาสนามากที่สุด เดินตามท้องถนนยุคนี้จึงเห็นสตรีคลุมหิญาบมากขึ้น แม้ไม่มากเท่าในประเทศมุสลิมอื่นๆเศรษฐกิจของบอสเนียค่อยๆดีขึ้น เป็นประเทศกำลังพัฒนาในระดับสูงพอๆกับประเทศไทย รายได้ต่อหัวคือ 7,700 USD ก็นับว่าดีเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ทว่ายังยากจนกว่าประเทศโครเอเชียและสโลเวเนียที่แตกออกจากยูโกสลาเวียไปพร้อมๆกัน #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan,#ซาราเจโว, #บอสเนีย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *