ชาเครื่องดื่มที่ได้จากใบชาเริ่มต้นขึ้นในจีนกลายเป็นเครื่องดื่มที่นำไปสู่การสร้างชาติสหรัฐอเมริกาตอนช่วงศตวรรษที่ 18 ไปจนได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้นยังมีประเด็นเกี่ยวข้องกับชาติใหญ่ในเอเชียอีกสองชาตินั่นคือจีนและอินเดีย ในขณะที่อังกฤษมีปัญหาอยู่กับชาวอาณานิคมในอเมริกาเหนือ ก่อนหน้านั้นในอินเดีย อังกฤษได้เข้าไปทดแทนอำนาจของดัทช์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในนามของบริษัทอินเดียตะวันออกใหม่ (New East India Company) ดัทช์ต้องการผูกขาดการค้าเครื่องเทศ ขณะที่อังกฤษต้องการผูกขาดการค้าใบชา สงชาติทำสงครามกันเองสามครั้งกระทั่งได้ข้อตกลงกันว่าดัทช์ไม่เข้ามายุ่งกับอังกฤษด้านใบชาส่วนอังกฤษปล่อยดัทช์ค้าขายเครื่องเทศอย่างอิสระ
การผูกขาดการค้าใบชาโดยไม่มีคู่แข่งของอังกฤษนั่นเองที่ทำให้ในอังกฤษเกิดความขัดแย้งระหว่างบริษัทของกษัตริย์กับบริษัทของรัฐสภา กระทั่งต้องรวมบริษัทกันและเริ่มขึ้นภาษาใบชาในอาณานิคม สร้างปัญหาความขัดแย้งกระทั่งนำไปสู่การจัดตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นที่อังกฤษต้องเรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาด ปัญหาใหญ่ที่ทำให้อังกฤษเพลี่ยงพล้ำในสงครามปลดแอกสหรัฐอเมริกาคือเงินในคลังที่ร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว อังกฤษเห็นว่าควรเปลี่ยนแปลงวิธีการค้าใบชากับจีน เพราะวิธีการเก่าคือการใช้เงินในคลังจ่ายค่าใบชาจากจีนเช่นที่เคยทำมาแต่เดิมเป็นปัญหาให้อังกฤษเกิดวิกฤติ หากเปลี่ยนแปลงไปเป็นการแลกเปลี่ยนสินค้าจะทำให้อังกฤษมีเงินในคลังมากพอที่จะแก้ไขวิกฤติของประเทศได้ เหตุนี้เองอังกฤษจึงเริ่มต้นเสนอการแลกเปลี่ยนฝิ่นดิบที่ปลูกกันมากในอินเดียกับใบชาของจีน เวลานั้นอังกฤษครอบครองอินเดียอยู่แล้ว
การขอแลกเปลี่ยนสินค้า ปรากฏว่าจีนยินยอมให้มีการค้าขายในลักษณะดังกล่าวระยะเวลาหนึ่ง ปรากฏว่าความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อทางการจีนเห็นว่าฝิ่นของอังกฤษมีผลในการทำลายพลังการผลิตของชาวจีนลงไปมาก พลเมืองอ่อนแอลงจีนจึงสั่งระงับการแลกเปลี่ยนสินค้าในลักษณะดังกล่าว นำไปสู่การเกิดสงครามฝิ่นระหว่างอังกฤษและจีนขึ้นใน ค.ศ.1839 ถึง ค.ศ.1842 รบกันเกือบสี่ปี อังกฤษได้ชัยชนะในสงครามทำให้อังกฤษสามารถค้าฝิ่นให้กับทางการจีนได้ต่อไปโดยมีข้อตกลงว่าทางการจีนจะอนุญาตให้อังกฤษค้าขายฝิ่นอย่างอิสระจนถึง ค.ศ.1908
ชะตากรรมของจีนในเรื่องชาแลกฝิ่นยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลยุโรปอื่นๆและญี่ปุ่นต้องการสิทธิจากรัฐบาลจีนเช่นเดียวกับที่อังกฤษได้รับบ้าง เมื่อรัฐบาลจีนไม่ยินยอม สงครามฝิ่นครั้งที่สองระเบิดขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1856-ค.ศ.1860 จีนเสียเวลาทำสงครามอีกสี่ปีและพ่ายแพ้อีกคำรบหนึ่ง จะเห็นได้ว่าความต้องการใบชาของชาวยุโรปที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความรุ่งเรืองให้แก่แผ่นดินจีนมากมายมหาศาลโดยมิได้คาดคิดสุดท้ายเป็นคล้ายลาภที่ไม่ควรโดยสร้างความหายนะแก่จีนอย่างเหลือคณานับในเวลาต่อมา #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #ชาจากวัฒนธรรมสู่สุขภาพ, #สงครามฝิ่น