ชนชาวเติร์กกับพลังและโมเมนตัมที่ขับเคลื่อนประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 67

ประเทศที่มีชนเติร์กอาศัยอยู่มากที่สุดในปัจจุบันคือสาธารณรัฐตุรกี มีประชากร 82 ล้านคนโดยเป็นชนเชื้อสายเติร์ก 55-60 ล้านคน แต่ตุรกีมิใช่ประเทศที่ใหญ่ที่สุดของชนเติร์ก ประเทศที่ใหญ่ที่สุดกลับเป็นคาซักสถาน (Kazakstan) ซึ่งอยู่ในเอเชียกลางที่ไม่มีทางออกทะเลเปิด มีพื้นที่มากถึง 2,724,900 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าตุรกี 3.5 เท่า แต่มีประชากรน้อยกว่าคือมีเพียง 18.3 ล้านคน จำนวนนี้ร้อยละ 76 เป็นคนเชื้อสายเติร์ก ในบรรดาชนเติร์กร้อยละ 96 มีเชื้อสายคาซัก ส่วนที่เหลือมีเชื้อสายอุซเบก อุยกูร์ และตาตาร์ ชนเติร์กที่เคลื่อนย้ายจากเอเชียตอนบนลงมาทางเอเชียกลางตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มแรกๆคือคูมัน (Cuman) เข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่ที่เคยมีมหาอำนาจยุคเก่าเข้ามาปกครองไม่ว่าจะเป็นไซเธียน (Scythian) เปอร์เซีย (Persian Achaemenid) รวมทั้งมาเซโดเนียยุคอเล็คซานเดอร์มหาราช ชนเติร์กคูมันเข้ารับอิสลามในศตวรรษที่ 8 จากการเผยแพร่ของชนอาหรับจากจักรวรรดิอับบาสิยะฮฺที่เข้ามาในพื้นที่ เข้าศตวรรษที่ 13 เมื่อมองโกลเข้าปกครองพื้นที่เอเชียกลาง ได้ให้อิสระกับชนคูมันพอสมควร ชนเติร์กคูมันตั้งถิ่นฐานอยู่ร่วมกับชนเติร์กเผ่ากิบชัก (Kipchak) เมื่อได้รับอิสระ ชนเติร์กสองกลุ่มจึงค่อยๆรวมกันเกิดเป็นกลุ่มชนที่เรียกว่าคาซัก (Khazak) ขึ้น จนกระทั่งกลางศตวรรษที่ 15 ชนกลุ่มใหม่นี้จึงรวมกันสร้างรัฐข่านคาซัก (Khazak khanate) เพื่อปกครองตนเอง เข้าศตวรรษที่ 17 รัฐข่านคาซักอ่อนแอลงถูกเติร์กกลุ่มอื่นรวมทั้งชนเติร์กอุซเบกเข้าปกครองนานถึงสองศตวรรษ กระทั่งปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิรัสเซียเติบโตขึ้นได้เข้ายึดครองดินแดนเอเชียกลางทั้งพื้นที่ที่เป็นคาซักสถาน อุซเบกิสถานและพื้นที่อื่น ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ตอนต้นศตวรรษที่ 20 ชนคาซักพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อขออิสรภาพจากรัสเซีย โชคร้ายเมื่อเข้า ค.ศ.1920 รัสเซียเปลี่ยนเป็นสหภาพโซเวียตเต็มรูปแบบ กลุ่มชนคาซักกลับเข้าไปอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตอีกครั้ง โดยจัดเป็นรัฐคาซักสถานสำหรับกลุ่มประชากรที่มีเชื้อสายคาซักเป็นหลัก ทว่าความเป็นอิสระทางการเมืองกลับเป็นปัญหาเมื่อโซเวียตปกครองรัฐคาซักสถานอย่างเข้มงวด มีการนำเอาคนรัสเซียเข้ามาเจือจางคนพื้นที่ การนับถือศาสนาอิสลามถูกจำกัด ดินแดนหลายส่วนของคาซักสถานเป็นพื้นที่กักกันเชลยศึกทั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อเนื่องมายังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเหตุให้ประชากรคาซักสถานมีประชากรเชื้อสายเยอรมันที่เคยเป็นเชลยศึกปะปนอยู่ร้อยละ 1 ระหว่าง ค.ศ.1990 เกิดความไม่สงบในสหภาพโซเวียต รัฐคาซักสถานจึงประกาศอิสรภาพปลายปีนั้น ก่อนขอเป็นประเทศเอกราชใน ค.ศ.1991 นับเป็นประเทศสุดท้ายที่เป็นอิสระจากสหภาพโซเวียตที่ล่มสลายลง ความที่มีคนรัสเซียเป็นประชากรของคาซักสถานมากถึงร้อยละ 19 เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ เป็นผลให้ประเทศนี้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับรัสเซียจนทุกวันนี้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *