จากคดีบิลลี่หวนให้รำลึกถึงอีกหนึ่งคนหาย “ทนายสมชาย นีละไพจิตร”

ฮือฮากันทางสื่อเวลานี้คือการคลี่คลายความลึกลับของคดีนายบิลลี่หรือนายพอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่หายตัวจากบ้านนานกว่าห้าปี สิ่งที่ได้ประจักษ์คือศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์สาขาอาชญวิทยาที่เรียกว่า “นิติวิทยาศาสตร์” ซึ่งเป็นสาขาที่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมเคยผลักดันรายวิชาในสาขานี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรเทคนิคการแพทย์เพราะชื่นชอบกระบวนการผสมผสานความรู้ระหว่างวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในการตรวจพิสูจน์ทางอาชญวิทยา ความชื่นชอบนี้เองนำไปสู่การจัดตั้งห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล (Halal Forensic Scientific Laboratory) ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลในเวลาต่อมา

คดีบิลลี่ทำให้หวนนึกถึงอีกคดีหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของคนหายเช่นเดียวกันนั่นคือการสาบสูญของทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2547 หรือเมื่อ 15 ปีมาแล้ว ทนายสมชายเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ได้สร้างคุณความดีไว้มากหนึ่งในนั้นคือช่วยงานคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครั้งผมเป็นคณบดีช่วยเป็นทนายแก้ต่างกรณีนิสิตคณะสหเวชศาสตร์ต้องคดียาบ้าหนึ่งเม็ดที่เป็นคดีครึกโครมเกิดขึ้นช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2543 หรือเพียงสองสัปดาห์หลังการเข้ารับตำแหน่งคณบดีของผม ในฐานะคณบดีผมนำนิสิตต่อสู้คดีในชั้นศาลโดยติดต่อสภาทนายความให้ส่งทนายสมชาย นีละไพจิตร เข้ามาช่วยเหลือ ทำคดีกันยาวนานตั้งแต่ปลาย พ.ศ.2543 จนถึงกลาง พ.ศ.2545 ความเก่งกาจของทนายสมชายในการสืบพยานฝ่ายจำเลยและหักล้างพยานฝ่ายโจทย์เป็นมหากาพย์ที่คนเรียนกฎหมายต่างอยากเรียนรู้ คดีสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์ซึ่งพิพากษายกฟ้องนิสิตตามศาลชั้นต้น แสนเสียดายที่กรณีการสูญหายของทนายสมชาย มีการกล่าวถึงกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ค่อนข้างน้อย ความลึกลับของคดีทนายสมชายจึงยังคงความลึกลับจนทุกวันนี้

เดินผ่านไปทางถนนจุฬาลงกรณ์ 12 หากใครมีโอกาสใช้ทางเดินลอยฟ้าจากห้างเอ็มบีเค เข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้านหน้าสถาบันศศินทร์ เดินผ่านหน้าอาคารคณะสหเวชศาสตร์ ลองมองเข้าไปด้านในอาคารบริเวณชั้นสองจะเห็นห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ “สมชาย นีละไพจิตร” ห้องปฏิบัติการนี้มีคอมพิวเตอร์จำนวน 30 ชุดจัดสร้างโดยเงินบริจาคจำนวน 1,310,282 บาทของผู้มีจิตศรัทธา เปิดดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2548 ใช้ประโยชน์มาจนถึงทุกวันนี้ เห็นห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์นี้แล้วขอช่วยกันตั้งจิตรำลึกถึงคุณความดีของทนายความผู้ที่ทำงานตรากตรำโดยบ่อยครั้งไม่ขอรับค่าตอบแทน อยากให้ร่วมกันจดจำเขาไว้ ไม่อยากให้ลืมคนดีศรีสังคมเช่นทนายความนักสู้ท่านนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *