ผมเลิกเขียนบทความในนิตยสารคู่สร้างคู่สมของพี่ดำรง พุฒตาล มานานเนื่องจากหาเวลาให้ไม่ได้จนกระทั่งนิตยสารเลิกตีพิมพ์หันไปนำเสนอออนไลน์เมื่อไม่กี่ปีมานี้ อย่างไรก็ตามเรายังติดต่อกันบ้างทางโทรศัพท์ พักหลังก้าวหน้าขึ้นมาหน่อย เราคุยกันผ่าน Line แต่พี่ดำรงบอกผมว่า “น้องวินัย นอกจาก Line แล้ว พี่ไม่เล่นอย่างอื่นเลยนะไม่ว่า facebook, instagram, whatsapp, tweeter” ก็ยังดีที่แม้ไม่เล่นแต่พี่รู้จักหมด
พี่ดำรงนับเป็นหนึ่งใน phelantropist หรือคนใจกุศลคนสำคัญของเมืองไทย พี่ควักทุนตั้งองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมสองสามแห่ง อย่างเช่นมูลนิธิเมาไม่ขับ มูลนิธิดำรง พุฒตาล อนุรักษ์ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย มูลนิธิหลังนี้พี่ดำรงเอาจริงเอาจังถึงขนาดลงมาบู๊ด้วยตนเอง
“คนไทยจำนวนไม่น้อยใช้ภาษาไทยไม่ถูก” พี่ดำรงเล่าผ่านโทรศัพท์เมื่อเร็วๆนี้
“วันก่อน คุณไหมเลขาเก่าไปพักบ้านพี่บนภูเขาที่เชียงราย เธอกลับมาบอกว่าบรรยากาศดีได้ฟังไก่ร้องทุกเช้า กำลังจะบอกว่าเธอใช้ภาษาไทยผิดยังไม่ทันไร ภรรยากลับมาเล่าให้ฟังว่าลูกชายเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันบ่นว่าได้ยินเสียงไก่เห่าทุกเช้า อะไรกัน ไก่ทั้งร้องทั้งเห่ามันถูกต้องตามหลักภาษาไทยที่ไหน มันต้องใช้คำว่าไก่ขัน” พี่ดำรงบ่นเสียงดัง ขณะที่ผมขำ คนไทยที่ใช้ภาษาไทยผิดกลายเป็นคนรอบตัวประธานมูลนิธิอนุรักษ์ภาษาไทยฯ ให้มันได้อย่างนี้ซี
“วันก่อนพี่ไปเกาะสมุย หมอประเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของสนามบินท่านชอบข้าวโพดคั่ว สนามบินเกาะสมุยจึงมีข้าวโพดคั่วบริการ อร่อยกว่าหลายที่ เมื่อไปถึง พี่บอกบริกรสนามบินไปว่าขอชากับข้าวโพดคั่วหน่อย” พี่ดำรงเล่าต่อ
“ชามาเสิร์ฟ จนพี่ดื่มหมดถ้วยแล้วข้าวโพดคั่วก็ยังไม่มา พี่ถามบริกรไปว่า หนูข้าวโพดคั่วยังไม่ได้หรือ บริกรถามกลับมาว่าท่านสั่งอะไรหรือคะ พี่จึงชี้ไปที่ตู้ข้าวโพดคั่ว เท่านั้นแหละบริกรเดินกลับไปเอาข้าวโพดคั่วมาให้ พร้อมขอโทษขอโพยดิบดี เธอบอกพี่ว่าหนูไม่ทราบจริงๆค่ะว่าท่านอยากรับประทานป็อบคอร์น อะไรกันล่ะนี่ ข้าวโพดคั่วกลายเป็นป็อบคอร์นไปแล้วหรือ”
ฟังจากน้ำเสียงพี่ดำรง บอกไม่ถูกว่าในฐานะประธานมูลนิธิอนุรักษ์ภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย พี่เขารู้สึกอย่างไรในเรื่องนี้โกรธ เห็นใจ ปลงหรือว่าสงสารผมไม่ทราบได้ยินแต่เสียงพี่ดำรงพึมพำผ่านริมฝีปากเบาๆว่า “Oh my gosh”