เริ่มด้วยปลาทะเลที่มีกรดไขมันโอเมก้าสามสูง วงการแพทย์พบว่ารอบเซลล์ผิวหนังมีกรดไขมันกลุ่มนี้สูง หากได้รับกรดไขมันโอเมก้าสามจากปลาทะเลจะช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวหนังซึ่งจะช่วยปกป้องคอลลาเจนได้อีกต่อหนึ่ง ผักผลไม้ที่มีสีแดงอย่างมะเขือเทศ หรือแม้กระทั่งมะละกอ มีสารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มไลโคปีนสูง ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดดแผดกล้าได้ ทำให้คอลลาเจนไม่ถูกทำลายเร็วเกินไป ผักใบเขียวเข้มมีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันคอลลาเจนไม่ให้ถูกทำลาย ความเห็นนี้มีงานวิจัยรองรับค่อนข้างมาก พืชผักสีส้มไม่ว่าจะเป็นแครอท หรือส้ม มีสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่ช่วยปกป้องคอลลาเจนได้ดี
เบอร์รีเป็นผลไม้สีออกม่วงดำ อย่างมะหวดและลูกหว้าในบ้านเราที่หายไปแทบหมดอย่างน่าเสียดาย ผลไม้แถบหนาวอย่างเช่นแบล็คเบอร์รี่ ราสพ์เบอร์รี ช่วยป้องกันการทำลายและช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย ถั่วเหลืองไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้ หรือเต้าหู้ หรือแม้กระทั่งถั่วแระ มีสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มเจนิสทีนที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจนได้ ชาขาวหรือชาที่ได้จากชาใบอ่อน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยคิงสตัน ลอนดอน พบว่าสารไฟโตนิวเทรียนท์จากชาขาวช่วยปกป้องคอลลาเจนจากการทำลายของเอนไซม์ได้ดี ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว มีวิตามินซีสูงช่วยปกป้องคอลลาเจนจากการถูกทำลายได้
อาหารโปรตีนอย่างเช่นไข่ขาว หรือเนื้อแดงให้กรดอะมิโนไลซีนและโปรลีน ช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ กระเทียมเป็นแหล่งของซัลเฟอร์ช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง สุดท้ายคืออาหารทะเลอย่างหอยนางรมมีธาตุสังกะสีช่วยสร้างคอลลาเจน ลองเลือกกินอาหารที่ว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้สารพัดสีที่มีสารป้องกันอนุมูลอิสระสูง เลือกล้างทำความสะอาดผักผลไม้ให้มากหน่อย ตราบใดที่บ้านเรายังปล่อยปละให้สารเคมีพิษทางการเกษตรเกลื่อนกลาดอย่างเช่นทุกวันนี้ เราก็คงต้องป้องกันตัวกันไว้ให้ดีตราบนั้น