ไดโนซอร์ (Dinosaur) คนไทยนิยมเรียกว่าไดโนเสาร์ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 230 ล้านปีมาแล้ว ก่อนจะวิวัฒนาการแพร่พันธุ์อยู่เต็มโลกไปหมด กระทั่งประมาณ 66 ล้านปีก่อน จู่ๆสัตว์ขนาดยักษ์กลุ่มนี้ก็มีอันสูญพันธุ์ไปเสียเฉยๆ เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อที่จะสูญพันธุ์โดยแท้ มีคำถามอยู่ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุทำให้สัตว์ยักษ์เหล่านี้สูญหายไปจากโลก มีหลายทฤษฎีที่อธิบายการสูญพันธุ์ครั้งนั้นบ้างก็ว่าเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าเชื่อถือมากที่สุดคือการพุ่งชนโลกของอุกาบาตขนาดยักษ์ที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมของโลกอย่างฉับพลัน ดูเหมือนทฤษฎีหลังนี้จะมีผู้คนเชื่อถือมากที่สุดเป็นเพราะมีการค้นพบว่ามีอุกาบาตขนาดยักษ์ชนโลกในยุคนั้นจริงๆ
ย้อนหลังไปในยุค 65-66 ล้านปีมาแล้วเกิดปรากฏการณ์ดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตรพุ่งชนโลกบริเวณคาบสมุทรยูคาทาน ซึ่งเป็นประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน ก่อให้เกิดหลุมที่เรียกว่า หลุมอุกาบาตชิกซูลูบ (Chicxulub Crater) ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างถึง 180 กิโลเมตร นับเป็นการชนครั้งมหัศจรรย์พันลึกที่สร้างผลกระทบร้ายแรงให้แก่โลก แรงระเบิดที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเชื่อกันว่ามีขนาดเท่ากับแรงระเบิดทีเอ็นที 4.2 ล้านล้านตัน ผลที่ติดตามมาคือการเกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ถาโถมไปทั่วโลก เกิดแผ่นดินไหวทั้งทำให้ภูเขาไฟหลายร้อยลูกทั่วทั้งโลกพากันระเบิดอีกหลายร้อยครั้ง ฝุ่นผงคละคลุ้งครอบคลุมโลกอยู่หลายปี สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคาร์บอนไดอ็อกไซด์หนาแน่น สิ่งมีชีวิตร้อยละ 70 สูญพันธุ์ส่วนใหญ่คือสัตว์พันธุ์ยักษ์อย่างไดโนเสาร์ที่นัดกันตายพร้อมๆกันจนแทบไม่มีเหลือ
คำถามน่าสนใจอีกคำถามหนึ่งคือเหตุการณ์นัดกันตายหมู่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ และเกิดจากสาเหตุอะไร
ดร.พอล เรนน์ (Paul Renne) นักธรณีวิทยาแห่ง the Berkeley Geochronology Center (BGC) สหรัฐอเมริกาและทีมงานจากอังกฤษและชาติอื่นๆทำการศึกษาอย่างละเอียด โดยนำเอาเศษซากดาวตกที่คาดกันว่ามาจากส่วนของดาวเคราะห์น้อยที่พุ่งชนโลกแถบคาบสมุทรยูคาทานในเม็กซิโกมาวิเคราะห์กันอีกครั้ง ทั้งยังเข้าไปศึกษาในบริเวณสถานที่เกิดเหตุ มีการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลมากมายที่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นเคยทำไว้แล้วในที่สุดก็สรุปได้ว่าดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกจริงเมื่อ 66.03-66.04 ล้านปีมาแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์พอดิบพอดี
ภูมิอากาศที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วหลังการชนของดาวเคราะห์น้อยกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ หากในอนาคตจะมีสิ่งมีชีวิตถึงคราวสูญพันธุ์พร้อมกันอย่างมโหฬารอีกครั้ง สาเหตุคงไม่ใช่เพราะอุกาบาตขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนโลก สาเหตุครั้งใหม่ผู้ก่อเหตุเห็นทีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากมนุษย์เท่านั้น #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์
