การละหมาดหรือนมาซคือหนึ่งในห้าหลักการสำคัญในอิสลามโดยกำหนดให้ปฏิบัติวันละ 5 เวลา อย่างน้อย 17 รอกะอัต ก่อนละหมาดกำหนดให้อาบน้ำละหมาดชำระล้างร่างกาย ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สอนมุสลิมยุคแรกให้จัดแบ่งน้ำเพื่อใช้ในการอาบน้ำละหมาด โดยแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ กำหนดด้วยว่าชนิดไหนใช้ได้หรือไม่ได้ ชนิดไหนเหมาะที่จะใช้ชำระร่างกายแบบไหน การจัดแบ่งน้ำนำไปสู่พัฒนาการด้านวิศวกรรมศาสตร์ ชลประทาน การเกษตร โลจิสติกส์และอีกหลายสาขาทั้งในยุคท่านนบีและหลังจากนั้น
การละหมาดนำไปสู่การสร้างมัสยิด ส่งผลต่อพัฒนาการด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และอีกมากมาย ในการละหมาดมีการกำหนดให้ผินหน้าไปทางทิศกิบลัตซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของวิหารกะอฺบะฮฺ เมื่อจักรวรรดิอิสลามขยายอาณาเขตไปมากจากอินเดียถึงสเปน การกำหนดทิศกิบลัตยุ่งยากมากขึ้น การกำหนดทิศกิบลัตจึงนำไปสู่พัฒนาการด้านดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตรีโกณมิติ เลขาคณิต ศาสตร์การทำแผนที่ หลายศาสตร์พัฒนาอย่างมากในรัชสมัยคอลีฟะฮฺอัลมะมูนแห่งราชวงศ์อับบาสิยะฮ์ในแบกแดด
อัลมะมูนมีพระนามเต็มว่า อบูจาฟัร อับดุลเลาะฮฺ อัลมะมูน อิบนุฮารูน อัลราชิด เป็นคอลีฟะฮฺองค์ที่ 7 ในราชวงศ์อับบาสิยะฮฺ โดยเป็นโอรสของคอลีฟะฮฺฮารูน อัลราชิด ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ.813-833 ความต้องการรู้ทิศกิบลัตเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคต้นของอิสลาม มีความพยายามกำหนดทิศกิบลัตของแต่ละเมืองในจักรวรรดิอิสลามที่มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โต เมื่ออัลมะมูนขึ้นครองราชย์เป็นคอลีฟะฮฺ พระองค์ทรงประสงค์ที่จะทราบเส้นรอบวงของโลกเพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณทิศกิบลัต เพื่อให้ราษฎรในแต่ละพื้นที่ของโลกอิสลามสามารถกำหนดทิศกิบลัตของตนเองได้หากมีเส้นรอบวงของโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตรเป็นหลัก
อัลมะมูนทรงจัดนักวิทยาศาสตร์ขึ้นสองทีมให้แข่งขันกันวัดเส้นรอบวงของโลก ก่อนหน้านั้นการวัดเส้นรอบวงของโลกเคยดำเนินการกันมาแล้วตั้งแต่ยุคก่อนอิสลาม ดังเช่น การคำนวณโดยปโตเลมีในยุคกรีก ทว่านักวิทยาศาสตร์ในโลกอิสลามเห็นว่าผลการคำนวณไม่ถูกต้อง การคำนวณในยุคอัลมะมูนจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง มีการพัฒนาศาสตร์ผสมระหว่างดาราศาสตร์กับคณิตศาสตร์เพื่อวัดมุมองศาระหว่างแบกแดดกับมักกะฮฺ แม้ได้ผลใกล้เคียงทว่ายังผิดในรายละเอียดอยู่ไม่น้อย
การพัฒนาต่อยอดส่งผลให้อีก 150 ปีหลังจากนั้น ในรัชสมัยของคอลีฟะฮฺอัตตาอี ค.ศ.990 อัลบีรูนี (Al-Biruni) ใช้แอสโทรแล็บ (Astrolabe) ในการวัดเส้นรอบวงโลกอีกครั้ง เริ่มด้วยการวัดความสูงของภูเขาก่อนคำนวณทางเลขาคณิตและตรีโกณมิติเพื่อวัดรัศมีของโลก ในที่สุดคำนวณความยาวเส้นรอบวงโลกออกมาได้ที่ 39,843 กิโลเมตร เทียบกับเส้นรอบวงโลกที่วัดได้ในปัจจุบันคือ 40,075 กิโลเมตรผิดไป 232 กิโลเมตรหรือ 0.06% เพียงแค่การละหมาดยังพัฒนาวิทยาศาสตร์ได้มากมายขนาดนี้ หากนำหลักการทางด้านอื่นมาร่วมพัฒนาวิทยาศาสตร์กันบ้าง อย่างเช่น ฮาลาลหะรอม จะได้สาขาทางวิทยาศาสตร์ขยายไปอีกมากเพียงไหน
#ละหมาดกับวิทยาศาสตร์, #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan