การละหมาดช่วยลดปวดหลังและเสริมสุขภาพ

ละหมาด (الصلاة Salat) คือการสักการะอัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ในอัลกุรอานมีการกล่าวถึงการละหมาด 99 ครั้งโดย 83 ครั้งเป็นคำนาม 12 ครั้งเป็นกริยา 1 ครั้งเป็นอีกรูปหนึ่งของคำนาม 3 ครั้งเป็นอีกรูปหนึ่งของกริยา มุสลิมละหมาดกันอย่างน้อยวันละห้าเวลา การละหมาดไม่ใช่แค่สวดมนต์แต่มีท่าทางต่าง ๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น ยืนตรง โค้งตัว คุกเข่า หมอบ นั่งบนเท้า นั่งยืดหลัง มีการสวดมนต์เป็นภาษาอาหรับใช้ท่าทางที่เปลี่ยนไปตามจังหวะ ข้อมูลวิจัยระบุว่ากระบวนการละหมาดให้ผลดีต่อสุขภาพแผ่นหลังส่วนล่างหรือส่วนที่เชื่อมต่อกับสะโพก ที่เรียกกันว่าหลังช่วงล่าง (Lower Back)

ดร.โมฮำมัด คาซอเนห์ (Mohammad Khasawneh) เป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาการระบบและวิศวอุตสาหการ มหาวิทยาลัยบิงแฮมตัน (Binghamton University) มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และทีมวิจัยร่วมกันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ศึกษาผลของการเคลื่อนไหวในท่าต่าง ๆ ของร่างกายที่มีต่อการยืดและคลายกล้ามเนื้อตามจุดต่าง ๆ ตลอดจนผลต่อกระดูก เส้นเอ็นทั่วร่างกาย จากนั้นนำมาศึกษาการเคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่าง ๆ ระหว่างการละหมาดเทียบกับการทำโยคะและการทำกายภาพบำบัด ผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร the International Journal of Industrial and Systems Engineering มีนาคม 2017

สิ่งที่พบคือการเคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่าง ๆ ส่งผลให้ระบบกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัวช่วยลดความเครียดของร่างกายและความล้าของจิตใจได้ ทีมวิจัยระบุว่าเคยมีงานวิจัยทางด้านกล้ามเนื้อโครงสร้างร่างกายและระบบประสาท (Neuro-musculoskeletal) ว่าความผิดปกติในระบบเหล่านี้ลดลงได้ด้วยการทำโยคะและกายภาพบำบัด ครั้งใหม่นี้ศึกษาโดยใช้การละหมาด ได้ข้อสรุปว่าการละหมาดจัดเป็นการรักษาสุขภาพแบบหนึ่ง ช่วยป้องกันปัญหาอาการเจ็บหลังช่วงล่าง (Low back pain) ได้ดี

ทีมวิจัยพบอีกว่าการเคลื่อนไหวจากการละหมาดช่วยป้องกันและรักษาอาหารปวดหลังได้ดีกว่าวิธีการทางกายภาพบำบัดซึ่งทาง National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH) safety limits กำหนดเป็นค่าความปลอดภัยไว้ โดยการละหมาดให้ผลกระทบต่อกล้ามเนื้อและกระดูกน้อยกว่า ทั้งพบอีกว่าท่าทางการโค้งตัวโดยใช้มือทั้งสองจับเข่าเช่นเดียวกับท่าทางละหมาดที่เรียกว่า “รูกัวะ” (Ruku) ช่วยลดอาการเจ็บหลังของผู้ป่วยได้ ผู้วิจัยยังแนะนำให้หยุดอยู่ในท่าหมอบกับพื้นหรือท่า “สุหยูด” (Sajjadh) ให้นานขึ้น เนื่องจากมีส่วนช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ล้าจากการทำงานทั้งวัน ทีมวิจัยสรุปอย่างนั้น

มีงานวิจัยชิ้นอื่นกล่าวถึงข้อดีของการกำหนดเวลา ผลของการอ่านพร้อมการสงบจิตระหว่างการละหมาดไว้ เมื่อนำเรื่องท่าทางในการละหมาดผสมผสานเข้ากับการกำหนดเวลาและการอ่าน นักวิจัยพบว่าประโยชน์ที่จะได้รับจะยิ่งมีมากขึ้น สรุปคือประโยชน์จากการละหมาดต่อสุขภาพ ได้จากการกำหนดเวลา การอ่าน การสงบจิต การเคลื่อนไหวท่าทางต่าง ๆ โดยกระทำอย่างสอดประสานกัน หากทำได้ถูกต้อง ประโยชน์จะทวีคูณขึ้น

#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #ละหมาดลดปวดหลัง, #ละหมาดกับสุขภาพ